กรมพัฒน์ฯ ดันรุกตลาดออนไลน์ เจาะผ่านช่องทางสมาร์ทโฟนและเฟซบุ๊ก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าชี้โอกาสค้าขายออนไลน์เติบโตสูง หลังพบคนไทย 68 ล้านคนใช้สมาร์ทโฟนกว่า 46 ล้านเครื่อง ใช้เฟซบุ๊กถึง 35 ล้านราย สามารถใช้เป็นช่องทางในการขายสินค้าได้ ขณะที่มูลค่าตลาดก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีถึง 2.4 ล้านล้านบาท โตปีละกว่า 10%

นางลลิดา จิระนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยในการเปิดงาน Thailand e-Commerce Day 2017 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า ประเทศไทยมีประชากรที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 90 ล้านเครื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นการใช้สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 46 ล้านเครื่อง และยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กถึง 35 ล้านราย มากเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโอกาสในการค้าขายสินค้าผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามจำนวนคนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ มูลค่าธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเป็นตัวเลข 2 หลักหรือมากกว่า 10% ในแต่ละปี โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 2.4 ล้านล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่เป็นการค้าขายประเภทธุรกิจต่อธุรกิจ (บีทูบี) ขณะที่การค้าขายธุรกิจต่อผู้บริโภค (บีทูซี) ยังมีมูลค่าไม่มาก ประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อปี แต่พบว่ามีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่การซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น มีอัตราการขยายตัวแบบก้าวกระโดด และถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ในการประกอบธุรกิจ

โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ เช่น สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสื่อสาร อาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ เป็นต้น

“กรมฯ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญต่อการค้าขายออนไลน์ หรือคนที่คิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจต้องมีช่องทางการค้าขายออนไลน์ด้วย เพราะเป็นแนวโน้มใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม โดยกรมฯ พร้อมให้การสนับสนุนทั้งการพัฒนาผู้ประกอบการค้าออนไลน์ การผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้ามาจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของไทย” นางลลิดากล่าว