“อภิรดี” เล็งผลักดันชุมชนหนองบัวแดงเป็น “Organic Valley” แห่งแรกของไทย หลังชุมชนมีความเข้มแข็ง มีการบริหารจัดการที่ดี ก่อนผลักดันเป็นต้นแบบให้เกษตรกรจังหวัดอื่น เผยยังได้เดินหน้าผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางเกษตรอินทรีย์ของอาเซียน เตรียมสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ในกลุ่ม CLMVT และดึงชาติอาเซียนร่วมจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่หารือร่วมกับภาคเอกชนและกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินทรีย์ อ.หนองบัวแดง และ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เพื่อติดตามการทำเกษตรอินทรีย์ของชุมชน โดยพบว่าชุมชนมีความเข้มแข็ง มีการผสมผสานวิถีของเกษตรอินทรีย์เข้ากับวิถีชีวิตของชาวบ้านตั้งแต่เริ่มต้นเพาะปลูกไปจนถึงการจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคในตลาด ผ่านระบบการบริหารจัดการในชุมชน ตั้งแต่การใช้พลังงานสะอาด (โซลาร์เซลล์) การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงเพื่อซื้อขายสินค้าระหว่างกันของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ต่างๆ ในชุมชน เช่น กลุ่มนาแปลงใหญ่ กลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม กลุ่มชุมชนคนเลี้ยงโคเนื้อ กลุ่มปลูกกล้วยหอมทอง และกลุ่มปลูกแตงโมออร์แกนิก เป็นต้น
“กระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะสนับสนุนให้ชุมชนเป็นต้นแบบของหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ (Organic Valley) แห่งแรกของไทย เพราะเกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีระบบการบริหารจัดการที่ดีตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และยังจะใช้เป็นต้นแบบในการผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เกษตรกรในภูมิภาคอื่นต่อไปด้วย” นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเกษตรอินทรีย์ของอาเซียน เพราะศักยภาพของสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยมีหลากหลาย มีเกษตรกรที่หันมาทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนที่จะสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ในกลุ่มประเทศ CLMVT ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเชิญให้เกษตรกรจากประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำเกษตรอินทรีย์ระหว่างกัน มีการลงมือปฏิบัติในแปลงสาธิต การอบรมด้านการตลาด และระบบลอจิสติกส์
นอกจากนี้ จะผลักดันให้ภาคเอกชนไทยและภาคเอกชนอาเซียนจัดตั้งสหพันธ์เกษตรอินทรีย์อาเซียน (ASEAN Organic Federation) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจะมีการหารือกันในระหว่างงาน Organic & Natural Expo ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 ก.ค. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมุ่งหวังให้สหพันธ์ดังกล่าวเป็นเวทีในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการผลิต และการตลาดเกษตรอินทรีย์ระหว่างผู้ผลิต กับผู้ประกอบการของประเทศในกลุ่มอาเซียน