รฟม.สั่งผู้รับเหมาสายสีเขียวหยุดใช้งานรถเครน หลังเกิดเหตุพลิกคว่ำ

รฟม.สั่งผู้รับเหมาระงับการใช้งานรถเครนทั้งหมด หลังเกิดเหตุรถเครนก่อสร้างพลิกคว่ำบริเวณเกาะกลางถนนพหลโยธิน หน้าโรงเรียนนายเรืออากาศฯ และเร่งทำการกู้และเคลื่อนย้ายรถเครนคันที่พลิกคว่ำออกจากพื้นที่ก่อสร้างโดยเร็ว เผยสาเหตุเกิดจากตัวยกเสาเข็มเกิดล็อกตัวขณะปล่อยลวดสลิง จนทำให้เกิดแรงกระชากรถเครนเสียการทรงตัว พร้อมสั่งทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัย ป้องกันเหตุซ้ำ

นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์รถเครนพลิกคว่ำขณะดำเนินการย้ายก้านเสาเข็มเจาะ ณ บริเวณเกาะกลางถนนพหลโยธิน หน้าโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ในงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 11.35 น. นั้น รฟม.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของอุบัติเหตุดังกล่าว พบว่าขณะเกิดเหตุนั้น กิจการร่วมค้า UN-SH-CH ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 2 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ใช้รถเครน 55 ตัน หมายเลข 87 ทำงานยกก้านเสาเข็มเจาะจากรถเทรลเลอร์เพื่อเตรียมงานในพื้นที่ก่อสร้าง ในระหว่างที่กำลังจะวางก้านเสาเข็มเจาะไปยังด้านหลังรถเครนจนเกือบถึงพื้นนั้น กว้านรอก (wrinch) ที่ใช้ยกเกิดการล็อกตัวในขณะที่ปล่อยลวดสลิงลง ทำให้เกิดแรงกระชาก (Shock load) ส่งผลทำให้รถเครนสูญเสียเสถียรภาพและพลิกคว่ำลงจากแรงกระชากทันที

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รฟม.ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างฯ ระงับการปฏิบัติงานที่ใช้เครนทั้งหมดโดยทันที พร้อมทั้งกำชับให้ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างและผู้รับจ้างฯ ดำเนินการทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขณะนี้ผู้รับจ้างฯ อยู่ระหว่างดำเนินการนำรถเครน 220 ตัน จำนวน2 คัน มาทำการกู้และเคลื่อนย้ายรถเครนคันที่พลิกคว่ำดังกล่าวออกจากพื้นที่ก่อสร้างโดยเร็วต่อไป