ไนท์แฟรงค์ ชี้อานิสงส์รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย-สายสีเหลือง หนุนอสังหาฯ ย่านบางนา-สมุทรปราการคึกคัก เผยไตรมาสแรกคอนโดฯ ใหม่เปิดขายเพียง 972 หน่วย มีสินค้าเหลือขาย 7,000 ยูนิต ขณะที่อัตราการขายต่อปี 3,500-4,500 หน่วยต่อปี คาดผู้ประกอบการเดินหน้าลงทุนพัฒนาเพิ่ม
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในย่านสมุทรปราการ นับตั้งแต่มีโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสีเหลืองว่า การพัฒนาคอนโดมิเนียมพักอาศัยใน ย่านสุขุมวิทตอนปลายตั้งแต่บางนา-สมุทรปราการ พบว่า มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า ผู้ประกอบการจะพัฒนาโครงการคอนโดฯ ออกมาจำนวนมาก แต่จะไม่มากเท่ากับในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง เนื่องจากที่ดินมีจำนวนจำกัด และมีราคาแพง รวมถึงการพัฒนาอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ในย่านนี้เติบโตขึ้นมาอีกมาก โดยเฉพาะในย่านสำโรง ที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อ หรืออินเตอร์เชนจ์ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีเหลือง
จากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ระบุว่า ณ ไตรมาสแรกของปีนี้จำนวนอุปทานคอนโดมิเนียมในย่านถนนสุขุมวิท ช่วงสี่แยกบางนา-สมุทรปราการ มีทั้งสิ้น 27,916 หน่วย โดยมีจำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมถูกขายไปได้ทั้งสิ้น 18,956 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 67.9 อัตราการขายปรับตัวขึ้นจากปี 2558 ซึ่งอยู่ในอัตราร้อยละ 62.8 โดยอัตราการขายคอนโดมิเนียมบริเวณนี้พบว่า มีอัตราการขายต่อปี อยู่ที่ประมาณ 3,500-4,500 หน่วยต่อปี ปัจจุบันในย่านนี้มีสินค้าเหลือขายในตลาดประมาณ 7,000 ยูนิต
ส่วนระดับราคาขายคอนโดมิเนียมในบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย ณ ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 78,157 บาทต่อ ตารางเมตร โดยอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมของราคาขายคอนโดมิเนียมในบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย มีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมอยู่ที่อัตราร้อยละ 5.6 ต่อปี โดยระดับราคาขายเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ 7 ต่อปี อันเนื่องมาจากความคืบหน้าของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนต่อขยาย คาดว่าราคาขายคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จะปรับตัวสูงขึ้นอีกในปี 2561-2563 เมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว เปิดให้บริการตลอดเส้นทางในปี 2563
การขยายตัวของตลาดคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ (บางนา-สมุทรปราการ) มีปริมาณอุปทานเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2557 และ 2558 (มีอุปทานใหม่เพิ่มสูงถึง 6,642 หน่วยและ 7,292 หน่วยตามลำดับ) ซึ่งปี 2556 เป็นปีที่เริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย จากสถานีแบริ่ง-สมุทรปราการ ขณะที่ปี 2559 มีอุปทานใหม่เพียง 3,836 หน่วย และไตรมาสแรกของปี 2560 มีอุปทานใหม่เพียง 972 หน่วย ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะตลาดในภาพรวม ส่วนอุปสงค์นั้น มีอัตราการซื้อห้องชุดในบริเวณนี้ประมาณ 3,500-4,500 หน่วยต่อปี เมื่อพิจารณาแนวโน้มตลาดโดยรวมแล้ว ภาพรวมของตลาดยังถือว่าอยู่ในสภาพที่ดีอุปทานมีการปรับตัวสอดรับกับอุปสงค์ที่มีอยู่ในตลาด