“พาณิชย์” จับมือ 2 บิ๊กธุรกิจ “ซีพี-ล็อกซเล่ย์” เปิดตัวโครงการ “ไท่ เล่อ โก้ว” คัดสินค้าจาก SMEs ก่อนนำไปขายให้คนจีนผ่านโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าสะดวกซื้อซีพีโลตัส อีซี่จอย สถานีบริการน้ำมันของซีโนเพ็ก รวม 178 สาขา ใน 6 หัวเมืองใหญ่ของจีน
นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ผนึกกำลังกับ 2 บริษัทเอกชนรายใหญ่ของไทยที่มีความเชี่ยวชาญตลาดจีน ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ดำเนิน “โครงการส่งเสริมสินค้าไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ไท่ เล่อ โก้ว (Tai Le Gou)” เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ของไทยมีช่องทางในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น
โดยรูปแบบความช่วยเหลือ ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมกันคัดเลือกสินค้าจากผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพในกลุ่มสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป สินค้าสุขภาพและความงาม ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ ผลไม้แปรรูป อาหารพร้อมรับประทาน วัตถุดิบปรุงอาหาร ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์รักษาผิว ผลิตภัณฑ์สปา เป็นต้น เพื่อนำไปจำหน่ายผ่านช่องทางที่บริษัทมีอยู่ ทั้งทางโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าสะดวกซื้อ เช่น ซีพีโลตัส ร้านอีซี่จอย และในสถานีบริการน้ำมันของซีโนเพ็ก รวมประมาณ 178 สาขา ใน 6 หัวเมืองใหญ่ของจีนที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง มีกำลังซื้อสูง และมีความต้องการสินค้านำเข้าที่มีคุณภาพ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เฉิงตู เสิ่นเจิ้น ซานโถว และกว่างโจว
ทั้งนี้ นอกเหนือจากช่องทางการจำหน่ายสินค้าทางออฟไลน์แล้ว จะมีการจำหน่ายสินค้าที่ผ่านการคัดเลือกดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์อีกด้วย เพราะพฤติกรรมการบริโภคของชาวจีนยุคใหม่นิยมการจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่ามูลค่าการค้าปลีกออนไลน์ของจีนในช่วงไตรมาสแรกปี 2560 มีมูลค่าสูงถึง 203 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 32.1% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2559
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า โครงการ ไท่ เล่อ โก้ว จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ถึงเดือน ก.พ. 2561 เป็นโครงการประชารัฐภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมฯ กับ 2 บริษัทเอกชน ในการผลักดันการส่งออกเชิงรุกรายภูมิภาค คาดว่าจะช่วยสร้างมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังจีนได้เพิ่มขึ้น และจะทำให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคจีน