ผู้จัดการรายวัน 360 - “เอสเซนโซ่” เปิดเกมรุกทรีอินวันพรีเมียม ชูกลยุทธ์ทุกรูปแบบเปิดตัว 2 แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ดันยอด อัดงบตลาด 180 ล้านบาทปูพรมทุกทาง คาดรายได้รวมทั้งกาแฟซุปเปอร์ปีนี้ 4,500 ล้านบาท
นายนิโคลัส ชาน ผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท เอส ซี เอ็ม แอล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ซุปเปอร์กาแฟ กาแฟปรุงสำเร็จรูป และ เอสเซนโซ่ กาแฟทรีอินวัน จากสิงคโปร์ นายสรพล บุญภากร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พี.เอส.บี. จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายในไทย เปิดเผยว่า ตลาดกาแฟรวมในไทยมีมูลค่า 36,000 ล้านบาท เติบโต 4% แบ่งเป็นเซกเมนต์ทรีอินวัน 20,000 ล้านบาท โต 4% จากเดิมช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโต 10% เนื่องจากฐานตลาดใหญ่แล้ว โดยเฉพาะเซกเมนต์สแตนดาร์ด ส่วนอีกเซกเมนต์คือกาแฟสด กาแฟพร้อมดื่ม 16,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปี 2560 ตั้งเป้ายอดขายทั้งหมด 4,400-4,500 ล้านบาท แยกเป็น ซุปเปอร์ 4,200 ล้านบาท และเอสเซนโซ่ 200 กว่าล้านบาท จากปีที่แล้วรายได้แบรนด์นี้ที่ 150 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะเน้นทำตลาดเอสเซนโซ่มากขึ้น จากเดิมที่เริ่มทำตลาดในไทยปีที่แล้วเนื่องจากเอสเซนโซ่อยู่ในกลุ่มทรีอินวันพรีเมียมที่มีมูลค่าตลาด 2,000 ล้านบาท และยังเติบโตดี
ปัจจุบันเอสเซนโซ่มีส่วนแบ่งอันดับที่ 2 ในกลุ่มทรีอินวันพรีเมียม ซึ่งมีอยู่ 3 แบรนด์หลักที่ทำตลาดในไทย โดยปี 2560 ใช้งบตลาดรวม 300 ล้านบาท แบ่งเป็น แบรนด์ซุปเปอร์ 120 ล้านบาท และแบรนด์เอสเซนโซ่ 180 ล้านบาท ซึ่งงบเอสเซนโซ่ แยกเป็น 150 ล้านบาททำการตลาด และอีก 30 ล้านบาททำประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขายต่างๆ ในทุกเซกเมนต์ โดยจะทำกิจกรรมการตลาดเต็มที่ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ โรดโชว์ อีเวนต์ และสื่อดิจิตอลด้วย เช่น การแจกชงชิมหนึ่งล้านถ้วย การออกหนังโฆษณา รวมทั้งเป็นปีแรกที่ใช้กลยุทธ์แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ “อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ” และ “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” และปีนี้ออก 2 รสชาติใหม่ คือ โคลอมเบียน เบลนด์ และ แมนเฮลิ่ง เบลนด์ ขนาดกล่องละ 20 ซอง ราคา 95 บาทต่อกล่อง ราคาจะสูงกว่าทรีอินวันสแตนดาร์ดเกือบเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกาแฟเอสเซนโซ่ทรีอินวันนำเข้ามาจากโรงงานที่ผลิตในมาเลเซีย แต่หากในอนาคตมียอดขายที่มากขึ้นและเติบโตดีก็อาจจะทำการลงทุนผลิตในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันนี้ในไทยมีโรงงานผลิตกาแฟของซุปเปอร์อยู่แล้ว
