กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่งจดหมายกว่า 1 พันฉบับ ถึงกรรมการผู้มีอำนาจของนิติบุคคล ให้รีบติดต่อกลับว่ายังมีตัวตน หลังที่ผ่านมา ส่งจดหมายไปถูกตีกลับตลอด ย้ำหากไม่ติดต่อกลับภายใน 15 วัน มีทั้งโทษปรับ หรือหนักสุดลบชื่อบริษัททิ้งจากทะเบียน เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นธุรกิจผี และป้องกันการหลอกลวงประชาชน
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบการทำธุรกิจของนิติบุคคลให้มีความโปร่งใส ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในแนวทางการตรวจสอบคือ การแสดงสถานที่ตั้งของนิติบุคคลที่ต้องมีความชัดเจน ถูกต้อง มีตัวตนจริง สามารถติดต่อได้ โดยที่ผ่านมากรมฯ เคยจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์เพื่อแจ้งเตือนในเรื่องต่างๆ เช่น การติดตามการนำส่งงบการเงินประจำปี หรือการแจ้งยืนยันเอกสารทางบัญชี ไปยังนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับกรมฯ ในส่วนพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร จำนวน 920 ราย พบว่าเอกสารดังกล่าวถูกตีกลับ เนื่องจากไม่มีสถานที่ตั้งของนิติบุคคล และไม่ตรงตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับฐานข้อมูลการจดทะเบียนของกรมฯ
“ได้ทำหนังสือถึงผู้แทนนิติบุคคล ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามจำนวน 1,060 ฉบับ เพื่อให้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้งที่เป็นปัจจุบัน หลังพบว่า ไม่สามารถติดต่อกับนิติบุคคลตามสถานที่ตั้งที่ได้จดทะเบียนไว้ จึงขอความร่วมมือจากผู้แทนนิติบุคคลที่ได้รับหนังสือ โปรดเร่งดำเนินการโดยด่วน และขอให้ยืนยันและตอบกลับมายังกรมฯภายใน 15 วัน หลังจากได้รับหนังสือ ซึ่งกรมฯ ได้อำนวยความสะดวกให้กับนิติบุคคล โดยได้แนบแบบฟอร์มการยืนยันสถานที่ตั้ง พร้อมทั้งไปรษณีย์ตอบกลับโดยนิติบุคคลไม่ต้องชำระค่าจัดส่งแต่อย่างใด"น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว
น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นส่วนสำคัญในมาตรการป้องกันการหลอกลวงและสร้างความโปร่งใสในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เพราะหากติดต่อไม่ได้ ก็เท่ากับเป็นบริษัทลวง หรือเป็นธุรกิจผี ไม่มีตัวตน ซึ่งกรมฯ จะไม่เอาไว้ เพราะเป็นนิติบุคคลที่ทำผิดกฎหมาย และโทษหนักสุด จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนนิติบุคคล และไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้
ทั้งนี้ ตามกฎหมายกำหนดให้นิติบุคคลต้องระบุสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ เพื่อความสะดวกในการติดต่อและติดตามความเคลื่อนไหว หากนิติบุคคลไม่มีสถานที่ตั้งตามที่จดทะเบียนไว้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 มาตรา 14 ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และกรรมการบริษัทมีความผิดตามมาตรา 25 ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท รวมถึงอาจเป็นเหตุให้นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียนอีกด้วย