xs
xsm
sm
md
lg

โพลคาดปีใหม่นี้เงินสะพัด 1.29 แสนล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ทำการสำรวจมา แต่ขยายตัวต่ำสุดรอบ 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โพลคาดเงินสะพัดช่วงปีใหม่มูลค่า 1.29 แสนล้านบาท สูงสุดนับแต่ทำการสำรวจมา แต่อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.4% ต่ำสุดรอบ 5 ปี ชี้หากรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐ ทั้งช้อปช่วยชาติ เที่ยวช่วยชาติ คาดจะมีเงินสะพัด 1.5 แสนล้านบาท

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สำรวจจากกลุ่มอย่าง 1,223 ตัวอย่างทั่วประเทศว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 129,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% โดยในด้านมูลค่าถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ทำการสำรวจมา แต่ในด้านการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 แต่หากรวมมูลค่าการใช้จ่ายในช่วงปีใหม่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งมาตรการช้อปช่วยชาติ และมาตรการเที่ยวช่วยชาติ ที่คาดจะมีเงินจากการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 20,700 ล้านบาท ทำให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดรวมกัน 150,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.21% จากปีก่อน

“เศรษฐกิจไทยยังมีสัญญาณไม่โดดเด่นนัก เห็นได้จากคาดการณ์เงินสะพัดปีนี้ที่ขยายตัวเพียง 3.4% แต่ยังดีที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐออกมา ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษี มาตรการดูแลราคาสินค้าเกษตร ที่ทำให้ประชาชนมีความพร้อมในการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการใช้จ่ายช่วงปีใหม่นี้เด่นขึ้น” นายธนวรรธน์กล่าว

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการช้อปช่วยชาติ จะมีผลดีทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบต่อเนื่องถึงกลางเดือน ม.ค. 2560 เพราะปีนี้ขยายเวลาการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 14 วัน จากปีก่อนมีเพียง 10 วัน โดยคาดว่าจะมีผู้เสียภาษีที่อยู่เกณฑ์ได้สิทธิประมาณ 4 ล้านคน จากฐานผู้เสียภาษีทั้งหมด 10 ล้านคน แต่คาดว่าจะมีผู้ที่มาใช้สิทธิประมาณ 3 ล้านคน ขณะที่เทศกาลตรุษจีนปีนี้มาเร็ว อยู่ในช่วงปลายเดือน ม.ค. 2560 จึงทำให้ในเดือน ม.ค.เป็นช่วงควันหลงของการจับจ่ายใช้สอย

นอกจากนี้ ผลจากการที่การส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้น คาดว่าน่าจะมีแรงเหวี่ยงที่ดีต่อระบบเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 และผลจากการที่รัฐบาลกระจายงบเพิ่มเติมอีกประมาณ 100,000 ล้านบาท ลงสู่ 18 กลุ่มจังหวัด หากทำได้เร็วที่สุดช่วงกลางเดือน ม.ค. 2560 หรือช้าที่สุดไม่เกินกลางเดือน เม.ย. 2560 จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยช่วงปลายไตรมาส 2 ปี 2560 เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น

นายธนวรรธน์กล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงปีใหม่ ส่วนใหญ่ 67.1% มีการวางแผนออกนอกพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่ 84.9% จะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศ และ 15.1% เที่ยวต่างประเทศ และส่วนใหญ่เป็นการเที่ยวในกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งจะเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2559-3 ม.ค. 2560 สำหรับการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศจะเฉลี่ยอยู่ที่ 12,800 บาท/คน และค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ 65,300 บาท/คน เนื่องจากมีการแข่งขันด้านราคา ทำให้ราคาทัวร์ลดลง 10-30%

นอกจากนี้ ยังพบว่าการใช้จ่ายสำหรับช่วงปีใหม่ปีนี้ อันดับ 1 คือการซื้อสินค้าโอทอป รองลงมาคือ การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล/เสี่ยงโชค สินค้าคงทน (เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน) ของรับประทาน กระเช้าของขวัญ เครื่องดื่มบำรุง กระเช้าผลไม้ สินค้าฟุ่มเฟือย (เครื่องประดับ/ทอง) และการจัดเลี้ยงสังสรรค์ โดยแหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่ 37.6% มาจากเงินเดือน, 28% มาจากเงินออม และ 27.5% มาจากเงินโบนัส

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจการให้คะแนนการทำงานรัฐบาลชุดนี้ว่า คะแนนในความตั้งใจของรัฐบาลชุดนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 6.67 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน แต่คะแนนผลการดำเนินการอยู่ที่ 6.27 คะแนน โดยผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนความตั้งใจในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด 7.04 คะแนน แต่คะแนนผลดำเนินการด้านเศรษฐกิจอยู่ที่ 6.32 คะแนน รองลงมาคือ การแก้ปัญหาคอร์รัปชัน แก้ปัญหาสังคม แก้ปัญหาความขัดแย้ง และแก้ปัญหาภัยพิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น