ผู้จัดการรายวัน 360 - “ช้อปช่วยชาติ” ช่วยดันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มได้อีก 1-2% ส่งทั้งปีทรงตัวที่ 227,000 ล้านบาท “เพาเวอร์ มอลล์” ทุ่ม 100 ล้านบาทจัดงานเพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า 2017 เพิ่มพื้นที่จัดงานเป็น 4 ศูนย์ คาดเงินสะพัด 500 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน 35%
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2559 นี้น่าจะทรงตัว หรือจบเท่าปีก่อนที่ประมาณ 227,000 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาสสี่เจอผลกระทบมากสุด แต่เมื่อมีมาตรการช้อปช่วยชาติออกมาระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค.นี้ น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้อีก 1-2% เท่านั้น แต่ถือว่าดีกว่าปีก่อนที่มีมาตรการนี้ออกมาแบบกระชั้นชิดและมีระยะเวลาเพียง 7 วัน
ล่าสุดทางบริษัทได้จัดงานเพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า 2017 ขึ้นระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 59-4 ม.ค. 60 โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน ธ.ค. ซึ่งปีนี้เพิ่มพื้นที่ขายมากขึ้น จากเดิมจัดที่อีเวนต์ฮอลล์ และเอ็มซีซีฮอลล์ สาขา เดอะมอลล์บางกะปิ งามวงศ์วาน และบางแค รวม 3 สาขา ล่าสุดได้เพิ่มพื้นที่จัดงานที่ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางแค รวมถึงภายในแผนก เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน บางแค บางกะปิ และท่าพระ รวมเป็น 4 สาขา ใช้พื้นที่จัดงานทั้งหมดกว่า 24,000 ตารางเมตร เพื่อขานรับมาตรการช้อปช่วยชาติ และรองรับลูกค้าให้ทั่วถึง ภายใต้จำนวนสินค้ากว่า 200 แบรนด์ครอบคลุมทุกกลุ่ม
การจัดงานครั้งนี้ใช้งบกว่า 100 ล้านบาท มีโปรโมชันการชอปสินค้าภายในงานรับคืนรวมสูงสุด 40% และผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือนทุกชิ้นทั้งงาน พร้อมรับบัตรกำนัลจากเพาเวอร์มอลล์สูงสุด 20,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐกับมาตรการลดรับปีใหม่และช้อปช่วยชาติ ระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค.นี้ จากมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะกระตุ้นยอดขายมากกว่าปีก่อน 35% หรือน่าจะมียอดขายภายในงานกว่า 500 ล้านบาท
นายจักรกฤษณ์กล่าวว่า ภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าทรงตัว แต่สำหรับเพาเวอร์มอลล์ยังคงเติบโต 2% หรือมียอดขายรวม 10,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่วางไว้ 12,000 ล้านบาท เติบโต 5% ซึ่งตลาดทีวี เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ตั้งแต่ช่วงกลางปียังทรงตัว โดยไตรมาสสุดท้ายแม้อารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคจะปรับลดลง แต่ครึ่งปีหลังยังมีการแข่งขันที่ดีอยู่ แต่ละแบรนด์จะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ไม่ได้แข่งขันด้านโปรโมชันเพียงอย่างเดียว
“ปีหน้ากลุ่มทีวีจากที่ตกลง 5% จะกลับมาโตได้อย่างน้อย 1-2% และสินค้าที่จะมีการเติบโตสูงคือ เกม กล้องถ่ายรูป กลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้ และเครื่องครัว” นายจักรกฤษณ์กล่าว