รฟม.เผยกลุ่มกิจการร่วมค้า BRS ซึ่งมี “BTS-ราชบุรีโฮลดิ้ง และซิโน-ไทย” เสนอผลตอบแทนดีสุด ผ่านเกณฑ์ ประเมินสูงสุดรถไฟฟ้าสีชมพู และสีเหลืองทั้ง 2 สาย คณะกรรมการคัดเลือกฯ เร่งเจรจาต่อรอง ชง ครม.อนุมัติ มี.ค. 60 เซ็นสัญญา เม.ย. 60 ตามนโยบาย “สมคิด”
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า จากที่ รฟม.ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้รับสัมปทานการลงทุนออกแบบและก่อสร้างงานโยธาการจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. มีมูลค่าลงทุนรวม 53,519.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. มูลค่าลงทุนรวม 51,931.15 ล้านบาท โดยคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ. เอกชนร่วมลงทุนฯ พ.ศ. 2556 ได้ประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติและเทคนิค) และเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่ากิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) (ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) เป็นเอกชนผู้ผ่านการประเมินสูงสุด
โดยหลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะพิจารณากำหนดประเด็นเจรจาต่อรองและเริ่มการเจรจาต่อรองกับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ให้ได้ข้อสรุปก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2560 การนี้ รฟม.เร่งรัดประเมินข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ เป็นไปตามนโยบายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายไว้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาสัมปทานได้ภายในเดือนเมษายน 2560
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ นั้น เป็นโครงการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม.ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและเอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร (PPP Net Cost) มีระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี