ผู้จัดการรายวัน 360 - “ดีแคทลอน” จ่อเพิ่มผลิตสินค้าในไทยเพิ่มอีก 2 เท่าจากปัจจุบันแค่ 10% หวังลดต้นทุน เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ลดอัตราเร่งขยายสาขาใหม่ในช่วงนี้หลังโหมหนัก 1 ปี ปูพรมเปิด 9 สาขา หันมาเน้นการตลาด การบริหารสินค้า การขยายฐานลูกค้า
นายเฟรเดอริก บิเชท ซีอีโอ บริษัท ดีแคทลอน ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารร้านดีแคทลอนสโตร์ร้านอุปกรณ์กีฬาและท่องเที่ยวของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มฐานการผลิตสินค้าจากซัปพลายเออร์ในไทยมากขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าในปีหน้า (2560) จากปัจจุบันที่มีเพียง 10% เท่านั้นเองในสโตร์ในไทย เพื่อที่จะทำให้ต้นทุนผลิตต่ำลงและตั้งราคาขายได้ถูกกว่าเดิม และสามารถขยายฐานตลาดได้มากขึ้น จากเดิมที่เป็นการนำเข้ามา 90% จากต่างประเทศ หลายแหล่งผลิตมากกว่า 30 แห่ง โดยเป็นของดีแคทลอนเอง 8 แห่ง และเป็นการว่าจ้างโรงงานอื่นผลิตอีก 22 แห่ง
“การผลิตในประเทศไทยเพื่อขายในไทยแต่ยังคงคุณภาพไว้นั้นจะทำให้ราคาสินค้าถูกลง เข้าถึงจำนวนมากขึ้นสามารถซื้อหาได้ง่ายขึ้น และยังส่งผลเชิงบวกทั้งลูกค้าและเศรษฐกิจในไทย รวมทั้งช่วยลดผลกระทบต่อโลกอันเกิดจากการขนส่งระยะสั้นขึ้น”
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสินค้าเกี่ยวกับกีฬาและท่องเที่ยวจำหน่ายในไทยรวมมากกว่า 20 แบรนด์ กว่า 5,000 รายการ จากทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าแต่ละแบรนด์แต่มีบางแบรนด์ที่มีหลายกลุ่มสินค้า ซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัททั้งหมด และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสินค้าและแบรนด์อีกในอนาคต เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าคนไทย โดยสินค้าที่จำหน่ายขณะนี้ เช่น สินค้าเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์กีฬา โดยกีฬาที่ได้รับความนิยมมากสุด คือ กีฬาเดินป่า ฟิตเนส วิ่ง ว่ายน้ำ จักรยาน ซึ่งราคาของเราต่ำกว่าแบรนด์ทั่วไป 20%
ส่วนแบรนด์สินค้าที่ขายดีของดีแคทลอน คือ เคชัว เป็นกีฬาเกี่ยวกับภูเขา, บัทวินปั่นจักรยาน, คาเลนจิ สำหรับการวิ่ง, โดมโยสสำหรับฟิตเนส ขณะที่ 5 อันดับสินค้าที่ขายดีคือ เป้สะพายหลัง ARPENAZ ขนาด 10 ลิตร ราคา 99 บาท, ไฟฉายไดนาโม ONBRIGHT 50 ราคา 129 บาท, เชือกกระโดด ESSENTIAL CN ราคา 49 บาท, ลูกขนไก่ BSC 700 ราคาลูกละ 29 บาท และที่สูบลมมือ MNP 100 ราคา 79 บาท
ส่วนแผนการขยายสาขาจากนี้คงยังไม่มีมากนักในระยะสั้นนี้ เนื่องจากในรอบ 1 ปีที่ดำเนินกิจการในไทยมาเปิดไปแล้วถึง 9 สาขา ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเทสโก้โลตัสทั้งหมด เป็นพันธมิตรกัน แต่ไม่ได้เป็นเอ็กซ์คลูซีฟแต่อย่างใด โดย 7 สาขาอยู่ในกรุงเทพฯคือ บางนา หลักสี่ พระราม 4 รัตนาธิเบศร์ สุขาภิบาล 1 รังสิต จรัญสนิทวงศ์ และต่างจังหวัด คือ พัทยาเหนือ เชียงใหม่ พื้นที่เฉลี่ย 1,800-2,700 ตารางเมตร และยังมีอีกช่องทางคือเว็บไซต์ www.decathlon.co.th ที่สามารถซื้อผ่านเว็บได้เปิดเมื่อเดือนเมษายน 2559 ทำให้ช่วงนี้มาเน้นเรื่องการตลาด การผลิต และการสร้างฐานลูกค้ามากกว่า
ปัจจุบันเราเน้นการทำการตลาดโดยการเช่าพื้นที่ในโลตัส ซูเปอร์สโตร์ เพราะเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าเป้าหมายของเราเข้ามาชอปปิ้งสินค้าได้สะดวก อีกทั้งพื้นที่ยังเหมาะสมกับการจัดวางสินค้า มีความโปร่ง โล่ง จัดวางชั้นแสดงสินค้าได้ง่าย สามารถแบ่งโซนแสดงอุปกรณ์กีฬาขนาดใหญ่ได้ โดยสินค้าที่นำมาจัดจำหน่ายในประเทศไทยมีหลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ “ดีแคทลอน” เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบสโตร์แนวใหม่สำหรับคนไทย ถึงแม้ว่าแบรนด์สินค้ายังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ด้วยคุณภาพสินค้าที่ดี ราคาย่อมเยา อีกทั้งยังมีการรับประกันสินค้ายาวนานสูงสุดถึง 10 ปี และรับเปลี่ยนสินค้าคืนได้ภายใน 365 วัน
ในปีที่ผ่านมาสโตร์สาขาที่ได้รับความนิยมมากเป็นสาขา พัทยาเหนือ และเชียงใหม่ ซึ่งทำให้เราทราบดีว่าลูกค้าหลักของเรายังคงเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีความเข้าใจและคุ้นเคยกับดีแคทลอนและคุณภาพสินค้า รวมถึงการบริการของเราเป็นอย่างดี จึงทำให้เกิดการเลือกซื้อที่ง่าย เพราะไว้วางในในแบรนด์ของเรา ดังนั้นเราจึงพยายามเน้นกลยุทธ์การรับรู้ที่ดีต่อแบรนด์สินค้า สินค้าแต่ละชนิดเน้นที่คุณภาพ และฟังก์ชันการใช้งาน มีความหลากหลายของชนิดสินค้า มีการจัดวางที่สะดวกต่อการเลือกซื้อสินค้า พร้อมส่วนของป้ายบอกรายละเอียดสินค้าที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียด เข้าใจง่าย
โดยดีแคทลอนมีสาขามากกว่า 1,100 สโตร์ใน 28 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ในสิงคโปร์มี 2 สาขา มาเลเซียมี 2 สาขา และจะเปิดที่ฟิลิปินส์อีก 1 สาขา โดยในจีนสัดส่วนรายได้กว่า 10-15% จากทั้งหมด และในฝรั่งเศสเองมีมากกว่า 380 สาขา