ที่ประชุมบริษัทฯ COM7 อนุมัติงบลงทุนมูลค่ารวม 184 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการ “บางกอก เทเลคอม 999” หรือ BKK จำนวน กว่า 44 สาขา โดยเริ่มรับโอน และเข้าดำเนินกิจการภายใต้ชื่อ “BKK” ตั้งแต่ 1 ธ.ค.59 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/60 บอร์ดเผยคุ้มค่าการลงทุนมาก เมื่อเทียบกับการขยายสาขาเอง เพราะเงินลงทุนเหมาะสม ทำเลมีศักยภาพ เห็นยอดขายรอรับรู้ในอนาคต แถมมีแผนเพิ่มสินค้าแบรนด์ Apple ซึ่งเดิมในร้านของ BKK ไม่มีจำหน่าย และใช้รุกขยายสาขาในพื้นที่ Hypermarket ทั่วประเทศ หนุนเป้าหมายขยายสาขาแตะ 500 สาขา ในปี 60 จากปัจจุบันมีจำนวนสาขารวมกันแล้ว 365 สาขา ทั่วประเทศ
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ซื้อทรัพย์สินของบริษัท บางกอก เทเลคอม 999 จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) และแท็บเล็ต แบรนด์ชั้นนำต่างๆ และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม โดยบริษัทฯ ใช้งบลงทุนในครั้งนี้เป็นเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 184 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในของบริษัทฯ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่อง หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ แบ่งเป็นการรับโอนทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจครั้งนี้ รวมถึงสิทธิการเช่าชื่อทางการค้า (Branding) และเครื่องตบแต่งตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในร้านค้า โดยไม่รวมสินค้าคงคลังจาก บจก.บางกอก ในราคารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 170 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ จะต้องชำระเงินมัดจำ หรือเงินประกันการเช่าพื้นที่ให้กับผู้ให้เช่าแทน บจก.บางกอก คิดเป็นเงินรวมประมาณ 14 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเริ่มรับโอนทรัพย์สิน และเข้าดำเนินกิจการภายใต้ชื่อ “BKK” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 และคาดว่าจะสามารถรับโอนทรัพย์สินได้แล้วภายในไตรมาส 1/2560 โดยภายหลังการเข้าซื้อทรัพย์สินครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บจก. บางกอก และ บจก.บางกอก มีข้อตกลงที่จะไม่ประกอบธุรกิจภายใต้ชื่อ “BKK” และจะไม่ขยายสาขาเพิ่มเติมอีก รวมถึงจะไม่ประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นธุรกิจแข่งขันกับบริษัทฯ
“COM7 เข้าซื้อสินทรัพย์ของ BKK ในครั้งนี้เป็นการซื้อหน้าร้านของ BKK ที่มีศักยภาพจำนวนประมาณ 44 สาขา จากสาขาทั้งหมดของ BKK ซึ่งมีประมาณ 80 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งเราเลือกแล้วว่า เป็นสาขาที่ขายดี และอยู่ในทำเลที่อยากได้มานานแล้ว แต่ไม่สามารถหาพื้นที่ได้ เนื่องจากเป็นสาขาที่อยู่ในห้างเก่า หรือมีพื้นที่เต็มตลอด และสาขาเหล่านี้เป็นสาขาที่อยู่ในทำเลเดียวกับร้านของ COM7 ประมาณ 10 สาขา จึงทำให้ลดการแข่งขันในพื้นที่ดังกล่าวลงไปได้ และยังถือเป็นการขยายสาขาเพิ่มเติม โดยใช้เงินลงทุนที่เหมาะสม หรืออยู่ที่ประมาณสาขาละ 3 ล้านบาท จึงนับว่าคุ้มค่ามาก และนอกจากจะได้ทำเลที่ดีแล้วนั้น บริษัทฯ ยังสามารถควบคุมต้นทุนการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี เพราะบริษัทฯ ซื้อแต่หน้าร้าน จึงไม่มีต้นทุนหลังบ้านของ BKK เข้ามาเพิ่มเติม และใช้การบริหารงาน และทีมงานของ COM7 ดังเดิม”
นายสุระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า BKK เป็นบริษัทจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Smartphone และ Tablet แบรนด์ชั้นนำต่างๆ ซึ่งไม่ได้ขายสินค้าของแบรนด์ Apple ทำให้เป็นอีกโอกาสสำคัญที่ COM7 จะเพิ่มเติมสินค้าแบรนด์ Apple เข้าไปในร้านที่บริษัทฯ ได้ทำการซื้อมาสนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้นได้
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีร้านค้าปลีกภายใต้ชื่อ BaNANA ที่ขายสินค้า Multi Brands อยู่แล้ว แต่พื้นที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 100 ตารางเมตรขึ้นไป จึงทำให้ต่อไปบริษัทฯ จะนำแบรนด์ BKK สำหรับใช้ขยายสาขาในกลุ่ม Hypermarket เพราะด้วยขนาดพื้นที่ ซึ่งมีประมาณ 30-70 ตารางเมตร มีความคล่องตัว และสามารถนำไปใช้ขยายทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดได้ง่าย ขณะที่ตามข้อตกลงกับผู้บริหาร BKK จะไม่สามารถบริหาร และขยายสาขาเพิ่มเติมได้อีก โดยสาขาที่ COM7 ไม่ได้ซื้อมาจะต้องถูกปิดตัวลง รวมถึงไม่ประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นธุรกิจแข่งขันกับบริษัทฯ ลดความเสี่ยงในอนาคต
ทั้งนี้ COM7 ที่มีสาขารวม 365 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปัจจุบันแบ่งเป็น Studio 7 จำนวน 93 สาขา, BaNANA จำนวน 166 สาขา, iCare จำนวน 18 สาขา พร้อมทั้งสิทธิการบริหาร TRUE SHOP ซึ่งปัจจุบันได้บริหารแล้วทั้งสิ้นจำนวนกว่า 44 สาขา และล่าสุด BKK ที่ซื้อเข้ามาอีกจำนวน 44 สาขา ดังนั้น บริษัทฯ ยืนยันเป้าหมายขยายสาขาต่อเนื่องในทำเลที่มีศักยภาพ คาดปี 2560 มีสาขารวมกันแตะ 500 สาขาได้