“พาณิชย์” ปรับแผนแจกข้าวถุงให้ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพเป็นวันละ 3 หมื่นถุง หลังลดขนาดเหลือถุงละครึ่งกิโลฯ จากเดิมกำหนดแจก 1 หมื่นถุง ถุงละ 1 กิโลฯ เริ่ม 14 พ.ย.ถึง 30 ม.ค. 60 เพื่อให้ประชาชนได้รับข้าวเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้จัดทำโครงการแจกข้าวถุงแก่ประชาชนที่เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อชาวนาไทย โดย อคส.จะนำข้าวสารจำนวน 1,170 ตัน นำมาบรรจุถุงๆ ละครึ่งกิโลกรัม (กก.) แจกวันละ 3 หมื่นถุง จากเดิมที่จะบรรจุถุงละ 1 กก. แจกวันละ 1 หมื่นถุง โดยจะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2559 - 30 ม.ค. 2560 ในบริเวณพระบรมมหาราชวัง
ทั้งนี้ ข้าวที่แจกเป็นข้าวหอมมะลิที่ซื้อจากสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่ง
นางอภิรดีกล่าวว่า การดูแลราคาข้าวให้แก่เกษตรกร ล่าสุด อคส.กำลังเร่งดำเนินการเปิดและขยายตลาดนัดข้าวสารให้มากขึ้น เพื่อเป็นตลาดกลางรวบรวมข้าวสารทุกชนิด และขายทั้งในลักษณะขายส่งและขายปลีก ซึ่งในอนาคตผู้นำเข้าข้าวจากต่างประเทศก็สามารถเดินทางมาเลือกซื้อข้าวได้ที่ตลาดกลาง โดยจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสำหรับการซื้อขาย นอกเหนือจากช่องทางการขายแบบปกติแล้วต่อไปจะสามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังได้เร่งเปิดตลาดนัดข้าวเปลือกซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าเปิดทั้งหมด 44 จังหวัด จำนวน 109 ครั้ง ดังนี้ ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดต่างๆ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และสหกรณ์การเกษตรลำพูน พื้นที่ภาคกลาง เช่น สหกรณ์การเกษตรบางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี พื้นที่ภาคอีสาน เช่น อุบลราชธานี อุดรธานี มุกดาหาร บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และชัยภูมิ สำหรับพื้นที่ภาคใต้ อาทิ นครศรีธรรมราช เป็นต้น ทั้งนี้ การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกจะจัด ณ อำเภอและสหกรณ์ที่มีความพร้อม บางจังหวัดอาจจัดรวมกันหลายอำเภอ เช่น จังหวัดศรีสะเกษกำหนดจัดที่อำเภอเมืองฯ, อำเภอยางชุมน้อย และอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดเชียงใหม่ จัดที่อำเภอสันกำแพง, สันป่าตอง, แม่ริม ดอยสะเก็ด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกสามารถขยายเวลาดำเนินการและเพิ่มจำนวนจังหวัดได้อีก โดยจะพิจารณาจากความพร้อมของแต่ละแห่ง ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะเป็นผู้สำรวจและเสนอแผนเพิ่มเติมเข้ามายังกระทรวงฯ
