รัฐขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่ลุ้นราคาขายปลีกลดลง

ครม.ไฟเขียวแนวทางการจัดเก็บภาษีฯ น้ำมันเพิ่มขึ้นทั้งเบนซิน และดีเซล จากค่าการตลาดของผู้ค้าที่ปรับเพิ่มสูง จ่อดึงเป็นภาษีฯ 20 สต./ลิตร จับตาผู้ค้าน้ำมันยังลดราคาขายปลีกได้อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 พ.ย.ได้มีการพิจารณาปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันโดยการใช้แนวทางการหักจากค่าการลดค่าตลาดของผู้ค้าน้ำมันประมาณ 20% เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้การใช้น้ำมันมีปริมาณที่เพิ่มทำให้คนไทยไม่ประหยัดพลังงาน

อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวล่าสุดพบว่าผู้ค้าน้ำมันมีค่าการตลาดที่สูงทั้งเบนซินและดีเซลเฉลี่ยที่จะสามารถลดราคาขายปลีกให้แก่ประชาชนได้ 0.40 บาทต่อลิตร ดังนั้นจึงสามารถหักจากค่าการตลาดดังกล่าวได้โดยไม่กระทบต่อประชาชน โดยจากแนวทางดังกล่าวทำให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันรวมประมาณ 0.20 บาทต่อลิตร และที่เหลือผู้ค้าสามารถลดราคาขายปลีกได้โดยภาษีฯ ที่จัดเก็บทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มประมาณปีละ 6,500 ล้านบาท

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ภาษีจะปรับเพิ่มขึ้นเท่าใดขึ้นอยู่กับ ครม.วันนี้จะเห็นชอบในอัตราเท่าใดแน่ โดยทาง สนพ.จะต้องรอการพิจารณาเพื่อแจ้งให้แก่ผู้ค้าน้ำมัน โดยอัตราภาษีสรรพสามิตปัจจุบันเบนซินจัดเก็บที่ 6.30 บาท/ลิตร ส่วนภาษีไบโอดีเซลจัดเก็บที่ 5.65 บาท/ลิตร

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง ทำให้บางจากฯ กำลังพิจารณาจะปรับลดราคาน้ำมันมีผลพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) โดยปกติจะลดลง 40-60 สตางค์/ลิตร อย่างไรตาม เบื้องต้นได้รับแจ้งว่ากระทรวงการคลังอาจจะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงขอดูความชัดเจนก่อนตัดสินใจ