“กรมธุรกิจพลังงาน” เผยยังไม่ได้รับสัญญาณการปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในดีเซลจากบี 3 เป็นบี 5 หรือบี 7 ส่วนจะคงบี 3 ยาวไปถึงสิ้นปีหรือ พ.ค. 60 ขึ้นอยู่กับการรายงานสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบจากกระทรวงพาณิชย์เป็นหลัก ชี้หากเพิ่มสัดส่วนเป็นบี 5 ราคาขยับทันที 70 สต./ลิตร
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ธพ.ยังคงนโยบายการผสมไบโอดีเซล (บี 100) ในน้ำมันดีเซลสัดส่วน 3% หรือบี 3 คงเดิมการเปลี่ยนแปลงไปเป็นบี 5 หรือบี 7 ต้องรอการรายงานสถานการณ์ปาล์มและสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกำหนดนโยบายดังกล่าวเป็นหลัก หากดูจากสถานการณ์ปาล์มปัจจุบันการคงบี 3 ไม่มีผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ใช้น้ำมันดีเซลแต่อย่างใด
“ผลผลิตที่ออกมาน้อยขณะนี้ การเร่งดูดซับปาล์มจะทำให้ปาล์มเพื่อการบริโภคกระทบได้ และตามฤดูกาลผลิตที่จะเริ่มออกมาใหม่จะเป็นช่วง พ.ค. 2560 ถ้าถามว่าแนวโน้มการคงบี 3 จะยาวไปถึงไหนก็คงต้องรอปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบจากพาณิชย์เป็นหลัก” นายวิฑูรย์กล่าว
ปัจจุบันสต๊อก CPO ปรับลดลงเล็กน้อย แต่ราคายังคงอยู่ในเกณฑ์สูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 27-28 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ขณะที่บี 100 อยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร ผลปาล์มดิบเฉลี่ย 5 บาทต่อ กก. หากพิจารณาภาพรวมเกษตรกรได้ประโยชน์จากราคาปาล์มที่ไม่ต่ำจนเกินไป ขณะเดียวกัน หากเพิ่มสัดส่วนการผสมเป็นบี 7 จะกระทบผู้ใช้น้ำมันเพราะทุก 1% ของบี 100 ที่ผสมเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนดีเซลเพิ่มอีก 35 สตางค์ต่อลิตร ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดีเซล 100% ก็มีราคาสูงขึ้นอยู่แล้วในช่วงสิ้นปี
“ล่าสุดเรายังไม่ได้รับแจ้งที่จะให้เพิ่มสัดส่วนแต่อย่างใด และหากดูความตั้งใจของพลังงานทดแทนในเรื่องของไบโอดีเซลก็มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการช่วยเหลือเกษตรกร และขณะนี้ราคาปาล์มก็อยู่ในระดับเกษตรกรพอใจก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่นโยบายดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงก็อยู่ที่ตัวเลขสต๊อกปาล์มที่กระทรวงพาณิชย์จะแจ้งเรามาเป็นหลัก ไม่ใช่เราตัดสินใจ” นายวิฑูรย์กล่าว
