สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยและสมาคมการค้าพืชไร่ รับปาก “พาณิชย์” เข้าช่วยซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่ต่ำกว่า 8 แสนตัน เน้นแหล่งเพาะปลูกสำคัญที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด ระบุหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ เตรียมใช้ไม้แข็ง ทั้งกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการซื้อข้าวโพด หรือปรับขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลี
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เชิญสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมการค้าพืชไร่ มาหารือถึงแนวทางการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำจนทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน โดยทางโรงงานผู้ผลิตอาหารสัตว์ได้แจ้งว่ายินดีที่จะให้ความร่วมมือในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดในเดือน พ.ย.นี้ เช่น จังหวัดน่าน ตาก เลย เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ เป็นต้น
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะออกสู่ตลาดมากในระหว่างเดือน ต.ค.-พ.ย. 2559 รวมประมาณ 2.28 ล้านตัน โดยในเดือน พ.ย. ผลผลิตจะออกสู่ตลาด ปริมาณ 8.86 แสนตัน
“สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรับที่จะบริหารจัดการให้สมาชิกเข้าไปรับซื้อรวมไม่น้อยกว่า 8 แสนตัน ในเดือน พ.ย.นี้ และจะพยายามแก้ไขปัญหาการติดคิวหน้าโรงานอาหารสัตว์ให้ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้รวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ได้เพิ่มมากขึ้น”
นางนันทวัลย์กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้การรับซื้อจากชาวไร่ต้องมีราคาที่เป็นธรรม และคาดว่าการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะช่วยดูดซับผลผลิตจากเกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว และช่วยสร้างเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ โดยกรมฯ จะติดตามการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโรงงานอาหารสัตว์และพ่อค้าคนกลางอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ หรือผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาเสนอมาตรการที่เข้มงวดเพิ่มเติม เช่น การกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ หรือการปรับขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลีต่อไป
