“ปตท.” วางงบลงทุนต่างประเทศ 30% ของงบลงทุน 5 ปี ที่ 1.2 ล้านล้านบาท ชี้ตลาดเออีซีมีศักยภาพลงทุนด้านพลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้า มองราคาน้ำมัน 5 ปี ไม่เกิน 70 เหรียญ/บาร์เรล
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาประจำปี ธนาคารกรุงเทพ AEC Business Forum : AEC2025 วันนี้ (19 ต.ค.) ว่าการลงทุนของกลุ่ม ปตท.ใน 5 ปีข้างหน้าที่คาดว่าจะอยู่ระดับ 1.2 ล้านล้านบาทนั้น ประมาณ 50% เป็นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความมั่นด้านพลังงานของไทย และ 30% เป็นการลงทุนในต่างประเทศทั้งธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและปิโตรเคมี หากไทยสามรถตกลงร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาในการพัฒนาพื้นที่คาบเกี่ยวไทย-กัมพูชาได้ สัดส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศจะเพิ่มสูงกว่านี้อีกมาก
ทั้งนี้ ตลาดเออีซีมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราที่สูง ซึ่ง ปตท.ได้เข้าไปลงทุนในหลายธุรกิจทั้งด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศพม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น ลงทุนสถานีบริการน้ำมันและร้านกาแฟอเมซอน รวมทั้งเทรดดิ้ง โดย ปตท.ก็แสวงหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมโดยเฉพาะธุรกิจไฟฟ้า
นายเทวินทร์กล่าวต่อไปว่า ทิศทางราคาน้ำมันใน 5 ปีข้างหน้ามองว่าราคาน้ำมันคงไม่เกิน 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แม้ว่าความต้องการใช้น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินยังเป็นหลักและขยายตัวอยู่ แต่มีปัจจัยเรื่อง Shale Oil/Shale Gas รวมทั้งการส่งเสริมพลังงานทดแทนมาเป็นตัวกดดันราคาน้ำมัน
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ยอมรับว่าธุรกิจเทรดดิ้งได้รับผลกระทบจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซทำให้เราต้องหาทางป้องกันและหันมาทำอีคอมเมิร์ซเองด้วย แต่เนื่องจากตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) ธุรกิจเทรดดิ้งยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ดังนั้น บริษัทได้รุกการลงทุนในประเทศเวียดนามอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยมีการขยายสาขาร้านสะดวกซื้อ 140 สาขา และโมเดิร์นเทรด รามทั้งจับมือกับรัฐบาลเวียดนามทำเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของพฤติกรรมผู้บริโภค โดยใช้รูปแบบโมเดลการลงทุนในไทยมาใช้ใน CLMV
