ธพ.เสนอ ครม.ปรับปรุงกฎหมายคุมรถบรรทุกถังแอลพีจีเข้มขึ้น โดยดึงโรงบรรจุก๊าซแอลพีจีร่วมรับผิดชอบ หากปล่อยให้ร้านค้านำรถบรรทุกถังแอลพีจีมาขนโดยไม่ได้มาตรฐานให้ปฏิเสธการจำหน่าย แต่ถ้ายังจำหน่ายให้ถือว่ามีความผิด ด้านสมาคมฯ โรงบรรจุร้องขาดแคลนพนักงานขับรถ มีปัญหาถังบรรจุข้ามแบรนด์
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ธพ.ได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอปรับปรุง พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพื่อบังคับให้รถบรรทุกถังแอลพีจีของร้านค้าทั่วประเทศที่จะมาบรรจุแอลพีจีที่โรงแยกก๊าซจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ ธพ.กำหนดเพื่อป้องกันความปลอดภัย หากรถที่ร้านค้านำมารับแอลพีจีที่บรรจุถังแล้วไม่เป็นไปตามมาตรฐานให้โรงบรรจุปฏิเสธการจำหน่าย แต่หากพบยังจำหน่ายให้จะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
“เราเสนอเรื่องไปยัง ครม.แล้วรอการนำสู่การพิจารณาเท่านั้น โดยรถที่ขนถังแอลพีจีจากร้านค้านั้นตามมาตรฐานที่กำหนดจะต้องมีการปิดหลังคาท้ายรถและด้านข้างที่จะเป็นกรงลวด เมื่อเกิดอุบัติเหตุถังจะไม่กระเด็นออกมาเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่น โดยกฎหมายนี้เดิมมีอยู่แต่ไม่ได้มีโรงบรรจุเข้าดูแลแต่จะปรับปรุงให้โรงบรรจุเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบในการตรวจสอบ” นายวิฑูรย์กล่าว
นายวิฑูรย์ยังกล่าวถึงกรณีที่สมาคมผู้ค้าผู้ประกอบการธุรกิจโรงบรรจุก๊าซแอลพีจีเข้าพบ ซึ่งมีประเด็นหารือที่สำคัญคือปัญหาการขาดแคลนพนักงานบรรจุก๊าซฯ ที่โรงบรรจุแต่ละแห่งจะต้องมีพนักงานที่ผ่านการอบรมจาก ธพ.อย่างน้อยแห่งละ 1 คน ซึ่งเรื่องนี้ ธพ.ขอให้ทางโรงบรรจุส่งคนเข้ามาอบรมมากกว่า 1 คนแทนเพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนกรณีการขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุกแอลพีจีซึ่งกรมการขนส่งฯ ระบุต้องได้รับใบอนุญาตที่ 4 หรือขนวัตถุอันตราย เรื่องนี้ ธพ.จะประสานไปยังกรมการขนส่งทางบกที่จะขอผ่อนผันให้เป็นใบอนุญาตที่ 2 หรือรถประเภทสาธารณะแต่ต้องผ่านการอบรมกับ ธพ.เหมือนเดิมแทน โดยการฝึกอบรมกำลังพิจารณาว่าอาจจะมีการสอบทางระบบออนไลน์เพื่อให้รวดเร็วขึ้น
“กรณีถังที่มีการลักลอบข้ามบรรจุยี่ห้อนั้นก็กำลังมีแนวคิดว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมาใช้เป็นถังกลาง โดยคิดจากจำนวนปริมาณการค้าของแต่ละรายมาดูแลเพื่อที่จะเช็กปริมาณที่แท้จริง” นายวิฑูรย์กล่าว
นายสุรพล รักษาธรรมเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าผู้ประกอบการธุรกิจโรงบรรจุก๊าซแอลพีจี กล่าวว่า ได้หารือกับอธิบดี ธพ.เรื่องการดำเนินธุรกิจแอลพีจีโดยเฉพาะอุปสรรคในขณะนี้ที่มีปัญหาการขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุกแอลพีจีที่กรมการขนส่งทางบกบังคับว่าจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ประเภทที่ 4 (วัตถุอันตราย) และต้องผ่านการอบรมจาก ธพ. แต่ปัญหาคือคนกลุ่มนี้ไปรับจ้างขนส่งกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีรายได้สูงกว่าแทนทำให้โรงบรรจุประสบปัญหาในการหาพนักงานขับรถยากมาก
นอกจากนี้ สมาคมฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นโรงบรรจุก๊าซให้กับ ปตท.ประสบปัญหาการลักลอบบรรจุก๊าซฯ ข้ามยี่ห้อมากขึ้น โดยถัง ปตท.ถูกบรรจุเป็นแบรนด์อื่นประมาณ 10% ซึ่งปัจจุบันถังแอลพีจี ปตท.มีประมาณ 4 ล้านใบจึงขอให้รัฐเข้ามาดูแลส่วนนี้ ส่วนโรงบรรจุ ปตท.มีประมาณ 162 แห่ง เมื่อรวมโรงบรรจุทั่วประเทศจะมีประมาณ 370 แห่ง
นางจงภค โยธาทิพย์ อุปนายกที่ 1 สมาคมผู้ค้าผู้ประกอบการธุรกิจโรงบรรจุก๊าซแอลพีจี กล่าวว่า โรงบรรจุมีปัญหาขาดแคลนพนักงานบรรจุก๊าซที่จะต้องผ่านการอบรมและสอบผ่านจาก ธพ. และจะมีบัตรติดให้ ซึ่งหากไม่มีพนักงานนี้ประจำอยู่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากพนักงานมีการเข้า-ออกบ่อยมากจึงทำให้ประสบปัญหาขาดแคลน ขณะเดียวกันพบว่าโรงบรรจุก๊าซภาพรวมมีการบรรจุลดลง 10-20% สาเหตุมาจากปัจจัยจำนวนโรงบรรจุมากขึ้น และอีกส่วนการใช้ลดลงโดยเฉพาะจากภาคขนส่ง
