“พาณิชย์” จับมือเทสโก้ โลตัส เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีเจรจาทำธุรกิจกับโลตัส เพื่อนำสินค้าเข้าไปขายในห้างและช่องทางออนไลน์ 13 ต.ค.นี้ เผยโลตัสเตรียมส่งฝ่ายจัดซื้อเจรจากับเอสเอ็มอีทุกกลุ่มสินค้า
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับเทสโก้ โลตัส จัดงาน "Tesco Lotus & SME: Growing Together 4.0 คิดต่าง สร้างคุณค่า เข้าใจลูกค้ายุค 4.0" ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ ห้องรอยัล จูบิลลี่ ฮอลล์ ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเจรจาธุรกิจ เพื่อร่วมเป็นคู่ค้ากับเทสโก้ โลตัส และสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศผ่านทั้งช่องทางร้านค้ากว่า 1,800 สาขา และช่องทางออนไลน์ของเทสโก้โลตัส
“ความร่วมมือกับเทสโก้โลตัสในครั้งนี้เป็นโครงการในรูปแบบประชารัฐที่มุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้เอสเอ็มอีมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และสามารถมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น”
นายจอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ปัจจุบันเทสโก้ โลตัสมีคู่ค้าที่เป็นเอสเอ็มอีมากกว่า 80% ที่นำสินค้ามาจำหน่ายในชั้นวางสินค้าของเทสโก้ โลตัส และมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาเช่าพื้นที่ของเทสโก้ โลตัส มากกว่า 7,000 รายในแต่ละปี
สำหรับการจัดงาน เทสโก้ โลตัสได้นำทีมฝ่ายการพาณิชย์มาเจรจาจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าที่สนใจ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้า ตั้งแต่อาหารและเครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง, ของใช้ในครัวเรือน, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสวน, สินค้าเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย, เครื่องใช้สำนักงาน, ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่และเด็ก เป็นต้น
นอกจากนี้ เทสโก้ โลตัสยังได้นำคู่ค้าที่เติบโตมาด้วยกันมาบอกเล่าประสบการณ์ตรง และแนะแนวทางให้กับเอสเอ็มอีที่ประสงค์จะทำการค้ากับเทสโก้ โลตัสด้วย
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ จะมีการออกบูทให้คำปรึกษาเอสเอ็มอีอย่างครบวงจร โดยหน่วยงานภาครัฐ เช่น โซนกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สมาพันธ์ SME โซนให้คำปรึกษาจากสถาบันการเงินต่างๆ และบริการเพื่อเอสเอ็มอีอื่นๆ ซึ่งเรียกว่ามางานเดียวเอสเอ็มอีได้ติดอาวุธอย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว โดยผู้ที่สนใจเจรจาธุรกิจและร่วมงานสัมมนาลงทะเบียนได้ที่ www.tescolotus.com หรือ โทร. 08-6300- 0644 งานนี้ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่จดทะเบียนและอยู่ในระบบมากกว่า 2.7 ล้านราย ทำให้เกิดการจ้างงานภายในประเทศสูงถึงร้อยละ 80 คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ 4.5 ล้านล้านบาท หรือมากกว่า 35% ของ GDP แต่ปัญหาอุปสรรคสำคัญของเอสเอ็มอีก็คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ตรงตามความต้องการของตลาด รูปแบบธุรกิจที่ยังไม่สอดคล้องกับสภาพการตลาดสมัยใหม่ รวมทั้งการดำเนินธุรกิจให้ได้มาตรฐานสากล ทำให้เสียโอกาสในการต่อยอดและขยายตลาด