xs
xsm
sm
md
lg

โชว์รถเมล์ NGV! ขสมก.เซ็นซื้อ 489 คัน การันตีได้นั่งแน่ของขวัญปีใหม่ 60

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ขสมก.เซ็นสัญญา “เบสท์ริน กรุ๊ป” ซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน ส่งมอบใน ธ.ค.นี้ ยันแจงข้อร้องเรียนครบถ้วน ส่วนฐานะการเงินไม่มีปัญหา พร้อมโชว์รถตัวอย่างยี่ห้อ “ซันลอง” จากจีน เข้าประกอบในโรงงานมาเลเซีย เพื่อใช้สิทธิทางภาษีอาเซียน 0% “ออมสิน” เผยปรับแผนซื้อรถเมล์ NGV ชงบอร์ด สศช. 5 ต.ค.นี้ เร่งเสนอ ครม.เดินแผนซื้อรถเมล์ ไฟฟ้านำร่องใน ม.ค. 60 พร้อมสั่งทำป้ายรถเมล์อัจฉริยะ นำร่อง 20 แห่ง ยกระดับบริการ

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ฤกษ์ดีวันครบวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 40 ปี จัดลงนามสัญญาซื้อขายรถโดยสารปรับอากาศ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน กับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,389,710,819.50 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่นๆ (ถ้ามี) โดยแบ่งเป็นค่าตัวรถวงเงิน 1,738 ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ ค่าซ่อมบำรุง ปีที่ 1-5 ประมาณ 826.305,231.75 บาท และปีที่ 6-10 วงเงิน 1,459,855,587.75 บาท โดยได้นำรถโดยสารปรับอากาศ NGV รถตัวอย่างมาเปิดตัวอีกด้วย

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การจัดซื้อรถเมล์NGV ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิมอนุมัติไว้จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท แต่เนื่องจากการจัดซื้อมีปัญหา ล่าสุดจึงได้ปรับแผนซื้อรถ NGV เหลือจำนวน 489 คัน โดยหลังลงนามสัญญาบริษัทฯ จะต้องส่งมอบรถให้ครบภายใน 90 วันหรือภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 2559 ถือเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทย

ทั้งนี้ การซื้อรถใหม่เป็นส่วนหนึ่งตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ที่ขณะนี้ ขสมก.ได้ปรับแผนโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิงจำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทใหม่ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ 1. การจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน 3. การจัดหารถเมล์ไฟฟ้า จำนวน 200 คัน กรอบวงเงิน 2,300 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินเดิม ปรับปรุงซ่อมแซมรถเก่า (overhaul) จำนวน 672 คัน โดยกรอบวงเงินรวมทั้ง 3 ส่วนประมาณ 4,300 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอแผนที่ปรับใหม่เจ้าที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอ ครม.เพื่อทบทวนมติเดิมต่อไป

“หลัง ครม.เห็นชอบแผนใหม่ ขสมก.จะเริ่มกระบวนการทีโออาร์การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คันได้ทันที และจะเป็นโครงการนำร่องเพื่อประเมินผลการใช้งาน ก่อนพิจารณาจัดหารถเมล์ไฟฟ้าในล็อตต่อไป รวมถึงการก่อสร้างสถานีประจุไฟฟ้า 4 แห่ง ได้แก่ อู่ใต้ทางด่วนวัชรพล, อู่ใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์ อู่คลองเตย อู่ บรมราชชนนี วงเงินลงทุนรวมประมาณ 300 ล้านบาท” นายออมสินกล่าว

ทำป้ายรถเมล์อัจฉริยะ นำร่อง 20 แห่ง

นายออมสินกล่าวว่า นโยบายสำคัญอีกเรื่องคือให้ ขสมก.ทำป้ายรถเมล์อัจฉริยะที่สามารถบอกสายรถเมล์ที่จะกำลังจะมาถึง และระยะเวลาที่จะมาถึง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาบน โดยจะนำร่องก่อน 20 แห่ง ซึ่ง ขสมก.ได้ลงนามว่าจ้างผู้เข้ามาดำเนินการแล้ว โดยจะนำร่องก่อน 6 แห่งในต้นเดือน ธ.ค.นี้ ได้แก่ ป้ายรถเมล์อนุสาวรีย์ 4 แห่ง ป้ายรถเมล์จตุจักร 2 แห่ง และที่เหลืออีก 14 แห่งจะทยอยต่อไป

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า ตามทีโออาร์กำหนดให้ส่งมอบรถ NGV 489 คันภายใน 90 วัน ไม่ได้กำหนดส่งมอบเป็นล็อต เหมือนเงื่อนไขระมูบก่อนหน้านี้ซึ่งทางเบสท์ริน กรุ๊ป จะส่งมอบ 489 คันในครั้งเดียวภายใน ธ.ค. 2559 โดยเป็นการนำเข้าทั้งคัน 100% โดยส่งจากจีนมาประกอบในประเทศมาเลเซีย และนำเข้าไทยแบบทั้งคัน ส่วนประเด็นที่มีการร้องเรียนว่า เบสท์ริน หรุ๊ป แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนนั้น ทางอาญาได้ข้อยุติไปแล้ว จากการชี้แจงต่อ ป.ป.ช. และคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) พบว่าไม่มีประเด็น ในขณะที่ได้ตรวจสอบความมั่นคงทางการเงินของบริษัทฯ พบว่ามีกำไรติดต่อกัน 3 ปีที่ผ่านมา และจ่ายภาษีถูกต้องอีกทั้งมีเงินสด 300 ล้านบาทฝากธนาคารกรุงเทพ จึงถือว่าไม่มีปัญหา ส่วนคดีทางแพ่งนั้นไม่เกี่ยวกับ ขสมก.และไม่กระทบต่อการลงนามสัญญา

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา (เค่อนั่ว หลิน) ประธานกรรมการบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจส่งมอบรถได้ครบจำนวน 489 คันในเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะส่งมอบในครั้งเดียวเนื่องจากมีขั้นตอนในการจดทะเบียนที่กรมขนส่งทางบก (ขบ.) ที่ต้องติดตั้ง GPS ไปพร้อมด้วยก่อน โดยบริษัทจะนำรถยี่ห้อซันลองจากจีนมาประกอบที่โรงงานสาขาของซันลองในมาเลเซีย แล้วนำเข้าทั้งคันเพื่อส่งมอบให้ ขสมก.โดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของอาเซียนสามารถนำเข้าโดยภาษีนำเข้า 0% จ่ายเพียงภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้มาก จากเดิมที่นำเข้าตรงจากจีนต้องเสียภาษี 40%

ทั้งนี้ ในประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญที่มีการนำเข้ารถซันลองกว่า 7,000 คันแล้ว ซึ่งทำให้มั่นใจระบบการซ่อมบำรุงซึ่งมีศูนย์ซ่อมอยู่ 6 แห่ง แต่เนื่องจากการเดินรถใน กทม. บริษัทฯ จึงเช่าพื้นที่อู่จอดรถ ขสมก.4 แห่งไว้สำหรับเป็นศูนย์ซ่อมรถ NGV 489 คันเพื่อความสะดวก และรับประกันการเดินรถได้ตามมาตรฐาน ขณะที่หาก  ขสมก.เปิดประมูลซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน บริษัทพร้อมเข้าร่วมประมูลแน่นอน

***รถNGV โฉมใหม่ คันละ3.54 ล. สิ่งอำนวยความสะดวกติดwifi ทุกคัน

สำหรับการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษาจำนวน จำนวน 489 คัน ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ๊อคชั่น) ขสมก.กำหนดราคากลางที่ 4,021,710,819.50 บาท ประกอบด้วยค่าซื้อรถ 1,735,550,000 บาท (คันละ 3,549,182 บาท) ค่าซ่อมบำรุง 10 ปี รวม 2,286,160,819.50 บาท โดยปีที่ 1-ปีที่5 ค่าซ่อมเฉลี่ยไม่เกิน 925.91 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งสิ้น 826,305,231.75 บาท ปีที่6- ปีที่ 10  ค่าซ่อมเฉลี่ยไม่เกิน 1,635.83
บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งสิ้น 1,459,855,587.75 บาท

ปรากฎว่า  บริษัท เบสท์รินกรู๊ป  จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่  3,389.71 ล้านบาท โดยเสนอต่ำกว่าราคากลาง 632 ล้านบาท

โดยรถตัวอย่างที่ เบสท์รินกรู๊ป นำมาโชว์นั้น จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทรวมถึงมาตรฐานความปลอดภัย มีการออกแบบภายนอกโฉมใหม่ให้ดูทันสมัย โดยมีประตูขึ้นลงด้านหน้า 1 ประตู ตรงกลาง 1 ประตู เป็นระบบเปิด - ปิด อัตโนมัติ มีระบบเซ็นเซอร์ ป้องกันประตูหนีบกรณีมีสิ่งกีดขวาง และถ้าประตูปิดไม่สนิททรถจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีประตูฉุกเฉินทางด้านขวาของตัวรถ

ส่วนโครงคัสซีออกแบบมาเพื่อรถโดยสารโดยเฉพาะ มีพื้นต่ำ เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้นลง ,มีระบบกันสั่นสะเทือนแบบถุงลมเพื่อความนุ่มนวลขณะโดยสาร

ระบบเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ กำลังเครื่องยนต์ 280 แรงม้า ,มีระบบดับเพลิงอันโนมัติในห้องเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์เกิดการลุกไหม้ระบบดับเพลิงจะทำงานทันที ,ระบบเกียร์อัตโนมัติ6 สปีด

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบทันสมัย ห้องโดยสารสูง ดูโปร่ง มีราวจับยึดแข็งแรง มีระบบกล้อง CCTV ติดตั้งในห้องโดยสาร 4 จุด โดยเฉพาะประตูขึ้นลง ทั้ง 2 จุด สามารถบันทึกภาพภายในห้องโดยสารย้อนหลังได้ไม่น่อยกว่า 15 วัน โดยต้ดตั้งจอภาพด้านหน้าบริเวณคนขับ สามารถมองเห็นผู้โดยสารโดยเฉพาะในขณะขึ้น- ลง ได้

นอกจากนี้ยังมีกล้องมองหลัง 1 จุด เพื่อความปลอดภัยในขณะถอยจอด โดยรถทุกคันติดตั้งระบบจีพีเอส ,ที่นั่งออกแบบให้โค้งเว้ารับกับสรีระ นุ่มสบายบุด้วยฟองน้ำหุ้มหนัง พื้นรถปูด้วยผ้ายางเกล็ด กันลื่นเพื่อความปลอดภัย

ที่สำคัญมี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ โดยมีประตูทางขึ้น-ลงตรงกลางรถ ขนาดใหญ่ มีทางลาดสำหรับผู้ใช้รถเข็น สามารถขึ้น-ลงได้สะดวก ภายในมีพื้นที่สำหรับจอดรถเข็น 2 จุด อยู่ใกล้ประตูตรงกลาง มีอุปกรณ์สำหรับยึดเก้าอี้รถเข็น ป้องกันการลื่นไหล ปลดออกได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีที่นั่งเฉพาะสำหรับผู้พิการ 2 ที่นั่ง พร้อมทั้งกริ่งสัญญาณเฉพาะอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณ wifi ไว้ให้บริการในรถโดยสารทุกคันอีกด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น