xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยเบฟ” ผนึก “ฮ่องกงแม็กซิม” ปั้น mx ชิงเบเกอรี 2.7 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด ออฟ เอเซีย จำกัด และนายไมเคิล วู (ซ้าย) ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ “ฮ่องกงแม็กซิมกรุ๊ป”
ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดเบเกอรีในไทยบูมสุด ทะลุ 2.74 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี “ไทยเบฟ” ควง “ฮ่องกงแม็กซิมกรุ๊ป” ผุดบริษัทร่วมทุน ปั้นร้านแฟรนไชส์ “mx cakes & bakery” ชิงตลาดสู้รายใหญ่ วางเป้า 100 สาขาในปี 2563 สานแผนขยายอาณาจักรฟูดเสริมพอร์ตเครื่องดื่ม

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด ออฟ เอเซีย จำกัด ในเครือไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า จากเป้าหมายที่กลุ่มไทยเบฟต้องการขยายฐานธุรกิจสู่อาหารมากขึ้นจึงทำให้บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหญ่จากฮ่องกง คือ “ฮ่องกงแม็กซิมกรุ๊ป” เพื่อจัดตั้งบริษัท แมกซ์ เอเซีย จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท โดย “ฟู้ด ออฟ เอเชีย” ถือหุ้น 70% ส่วน “ฮ่องกงแม็กซิมกรุ๊ป” ถือหุ้น 30% เพื่อเปิดบริการแฟรนไชส์ร้านเบเกอรีในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “mx cakes & bakery”

นายไมเคิล วู ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ ทายาทรุ่นที่ 3 ของ “ฮ่องกงแม็กซิมกรุ๊ป” กล่าวว่า “แม็กซิมกรุ๊ป” เชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มไทยเบฟและฟู้ดออฟเอเชียจึงตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกันโดยเปิดตัวแฟรนไชส์รายแรกก่อน คือ “mx cakes & bakery” ร้านเบเกอรีอันดับ 1 ของฮ่องกงที่มีอยู่กว่า 170 สาขา รวมอีกกว่า 100 สาขาในประเทศจีน ทั้งยังถือเป็นแฟรนไชส์แรกของกลุ่มฮ่องกงแม็กซิมกรุ๊ปในรอบ 60 ปีที่ก้าวสู่ตลาด Oversea Market

นางนงนุชกล่าวว่า ธุรกิจเบเกอรี่และเค้กถือเป็นธุกริจที่มีโอกาสของความสำเร็จที่เร็วที่สุด เพราะเป็นธุรกิจที่ทำกันด้วยสูตรและส่วนผสมเป็นหลัก ทั้งยังเป็นตลาดที่มีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก โดยเราวางเป้าหมายจะเปิดให้ครบ 80-100 สาขา ภายในปี 2563 หลังจากเปิดสาขาแรกแล้วที่สยามพารากอน ด้วยงบฯ ลงทุน 5 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ตารางเมตร ขณะที่ลูกค้ามีการใช้จ่ายเฉลี่ย 150-200 บาทต่อบิล โดยบริษัทฯ จะใช้สาขาแรกในการศึกษาตลาดเพื่อวางรูปแบบการลงทุนด้วย

จากข้อมูลในเอกสารของ “ฟูด ออฟ เอเชีย” อ้างอิงโดย “ยูโรมอนิเตอร์” ระบุว่า ตลาดรวมเบเกอรี่ของประเทศไทยในปี 2559 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2.74 หมื่นล้านบาท เติบโต 6.3% และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในอัตราเฉลียราว 5% ต่อปีจนถึงปี 2563

ขณะที่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดเบเกอรีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงปี 2554 ตลาดรวมมีมูลค่า 19,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 20,785 ล้านบาทในปี 2555 ก่อนขยับเพิ่มเป็น 22,116 ล้านบาท ในปี 2556 และเป็น 23,872 ล้านบาท ในปี 2557 ล่าสุดเมื่อปี 2558 ตลาดรวมอยู่ที่ 25,809 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วมีการเติบโตประมาณ 7.6% ต่อปีซึ่งถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของตลาดโลกที่มีการเติบโตประมาณ 2-3% เท่านั้น

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเบเกอรีในไทยเติบโตดี เนื่องจากสังคมรุ่นใหม่ที่มีชีวิตเร่งรีบ ทำให้อาหารพร้อมรับประทาน รวมทั้งเบเกอรีตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีและเข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น โดยตลาดเบเกอรีในไทยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. ขนมปังและโรล สัดส่วน 40% 2. แพสทรี สัดส่วน 36% 3. เค้ก สัดส่วน 23.7% และ 4. อื่นๆ สัดส่วน 0.2%

ทั้งนี้ เมื่อแบ่งตามสัดส่วนของผู้ประกอบการรายใหญ่แล้วพบว่า ผู้นำตลาดได้แก่ 1. “เพรซิเดนท์ เบเกอรี่” เป็นผู้นำตลาด 28.5% 2. “ซีพีแรม” สัดส่วน 11% 3. “เอสแอนด์พี” สัดส่วน 4.7% 4. “ยูโรเปียนฟู้ด” สัดส่วน 4.1% 5. “ซีแอนด์ดับบลิว” สัดส่วน 2.2% 6. “เอก-ชัย ดีสตริบิวชั่น ซิสเทม” สัดส่วน 1% และอื่นๆ เช่น ร้านเบเกอรีและร้านกาแฟทั่วไป สัดส่วน 40%



กำลังโหลดความคิดเห็น