xs
xsm
sm
md
lg

“สนพ.” ชี้ราคาน้ำมันช่วงสิ้นปีทรงตัว-ลุ้น LPG ต.ค.คงเดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


"สนพ."มั่นใจราคาขายปลีกน้ำมันสิ้นปีไม่หวือหวาเหตุน้ำมันดิบดูไบปีนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญฯต่อบาร์เรลมองกรณีโอเปคและเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะมีผลต่อจิตวิทยาระยะสั้น ขณะที่"กบง." 5ต.ค.จ่อเคาะราคาแอลพีจีขายปลีก เผยยอดใช้น้ำมัน9เดือนพุ่งผลพวงราคาน้ำมันต่ำ



นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบตลาดโลกปีนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ45-50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลซึ่งจะทำให้ราคขายปลีกน้ำมันของไทยจะยังคงเคลื่อนไหวขึ้น-ลง ใกล้เคียงกับปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องจับตาการประชุมกลุ่มผู้ผลิน้ำมันตลาดโลก(โอเปค)โดยเฉพาะการเจรจาของรัสเซียกับอิหร่านที่มีความพยายามจะรักษาระดับการผลิตเพื่อดูแลราคาหากตกลงได้ทิศทางจะขึ้นช่วงสิ้นปีแต่หากไม่สำเร็จแนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบก็อาจจะเคลื่อนไหวลดลงมาสู่ระดับ 40 เหรียญฯต่อบาร์เรลช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกันการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเชื่อว่าจะมีผลระยะสั้นด้านจิตวิทยาต่อตลาดน้ำมัน ตลาดเงินและตลาดทุน
สำหรับราคาขายปลีกแอลพีจีเดือนต.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารพลังงาน(กบง.)ประมาณ 5 ต.ค.นี้เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการแต่เบื้องต้นราคาตลาดโลก(CP)อยู่ที่ 340 เหรียญฯต่อตันจากเดือนก่อน 305 เหรียญฯต่อตัน อย่างไรก็ตามแต่ราคาแอลพีจีโรงแยกก๊าซในประเทศมีทิศทางลดลงตามสูตรราคาก๊าซอิงน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือนทำให้การเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกที่ปัจจุบัน
 
อย่างไรก็ตามผลจากระดับราคาน้ำมันเฉลี่ย 9 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ย.) ปีนี้ยังทรงตัวระดับต่ำทำให้การใช้พลังงงานรวมขั้นต้นทุกประเภทอยู่ที่ 2.1 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการใช้น้ำมันสำเร็จรูปรวม 137 ล้านลิตรต่อวันเพิ่มขึ้น 4.8% การใช้ไฟฟ้ารวม 9 เดือนแรกที่คาดว่าจะอยู่ที่ 137,424 ล้านหน่วยเพิ่มขึ้น 4.9%

สำหรับการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล โดยดีเซลเฉลี่ย อยู่ที่ 62.1 ล้านลิตรต่อวันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.1% กลุ่มน้ำมันเบนซินเฉลี่ย 29 ล้านลิตรต่อวันเพิ่มขึ้น 12.1% การใช้แอลพีจีรวมทุกสาขา 5.03 แสนตันต่อเดือนลดลง 10.3% ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) 7,511 ตันต่อวันลดลง 8.6% ก๊าซธรรมชาติ(NG) 4,726 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันลดลง 1%

" กลุ่มเบนซินที่ใช้เพิ่มส่วนหนึ่งมาจากผู้ที่เคยใช้แอลพีจีและเอ็นจีวีหันมาใช้เพาะราคาน้ำมันถูกลง ส่วนก๊าซธรมชาติที่ลดลงส่วนทางการใช้ไฟที่โตเพราะมีการหยุดจ่ายก๊าซจากเมียนมาร์ อีกส่วนมีการซื้อไฟจากต่างประเทศและพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น"นายทวารัฐกล่าว

สำหรับการใช้พลังงานทดแทนในแง่กำลังผลิตที่ 6,371 เมกะวัตต์(ไม่รวมน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่) เกินกว่าเป้าหมายที่ปีนี้จะมีไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ 5,637 เกินเป้าหมายแต่ในแง่ประสิทธิภาพต่ำกว่าเป้าหมาย 1,000 ตันเทียบเท่าน้ำมนดิบ(KTOE)
กำลังโหลดความคิดเห็น