“กบง.” เบรกขึ้นราคาแอลพีจี ก.ย.หลังต้นทุนพุ่งลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ส่วนของแอลพีจีลง 0.23 บาทต่อ กก.เพื่อตรึงราคาไว้คงเดิมที่ 20.29 บาทต่อ กก. มีผลตั้งแต่ 8 ก.ย.เป็นต้นไป “บิ๊กโย่ง” รับปากจะพยายามดูแลราคานี้ไว้จนถึงสิ้นปีแต่ต้องดูตลาดโลกด้วย
พล.อ.อนัตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ว่า กบง.ได้พิจารณาราคาขายปลีกแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) เดือนกันยายน 2559 อยู่ที่ระดับ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แม้ว่าต้นทุนจะปรับเพิ่มขึ้นก็ตามโดยจะพยายามใช้กลไกการบริหารของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนบัญชีแอลพีจีเพื่อที่จะไม่ทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นภาระประชาชน อย่างไรก็ตามจะดูแลราคาระดับดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดโลก แต่พยายามจะไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน (สนพ.) กล่าวว่า ราคาตลาดโลก (CP) อยู่ที่ 305 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 18 เหรียญสหรัฐต่อตัน ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย ทำให้ต้นทุนแอลพีจีเฉลี่ยจัดหา (LPG Pool) เพิ่มขึ้น 0.23 บาทต่อ กก. อย่างไรก็ตาม กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของแอลพีจียังคงมีเสถียรภาพ กบง.จึงมีมติลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ ในส่วนของแอลพีจีจากเดิมเก็บ 0.3908 บาทต่อ กก. เป็นเก็บที่ 0.1567 บาทต่อ กก. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 ก.ย.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าวทำให้กองทุนน้ำมันในส่วนของแอลพีจีมีรายรับลดลงจาก 82 ล้านบาทต่อเดือน จาก 137 ล้านบาทต่อเดือน คงเหลือรายรับประมาณ 55 ล้านบาทต่อเดือน โดยฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 ก.ย. 59 อยู่ที่ 41,707 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีแอลพีจี 7,411 ล้านบาท และน้ำมันอยู่ที่ 34,296 ล้านบาท
นอกจากนี้ กบง.ยังได้เห็นชอบแต่งตั้งอนุกรมการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการปฏิบัติงานภายใต้ร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ... โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานเพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ... ในช่วงเปลี่ยนผ่านซึ่งหาก พ.ร.บ.มีผลที่คาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า คณะอนุดังกล่าวก็จะถูกยุบไปแล้วมีคณะกรรมการภายใต้ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันฯ มาแทนที่
