“กบง.” ถกรับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมันขยับขึ้นสะท้อนตามตลาดโลก มองดีเซล 24.19 บาทต่อลิตรยังไม่น่ากังวลจนถึงต้องใช้กองทุนน้ำมันฯ มาอุ้ม เดินหน้าลดสัดส่วนไบโอดีเซลจากบี 5 เป็นบี 3 ตามเดิมมีผล 25 ส.ค.นี้ พร้อมเคาะกำหนด SCOD ไฟฟ้าขยะชุมชน 100 เมกะวัตต์ จากปี 2560 เป็นปี 2562
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่าที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมันซึ่งแม้ว่าขณะนี้ราคาตลาดโลกจะมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นจนทำให้ราคาขายปลีกในช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นต่อเนื่องซึ่งสะท้อนตามกลไกตลาด และหากพิจารณาจากราคาดีเซลที่อยู่ระดับ 24.19 บาทต่อลิตรจึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุนแต่อย่างใด
“ราคาน้ำมันที่ผันผวนเป็นไปตามกลไกตลาดโลก ยังไม่น่ากังวลแต่อย่างใด จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้กองทุนน้ำมันฯ ไปดูแล” นายทวารัฐกล่าว
นอกจากนี้ยังได้มีการหารือถึงภาวะน้ำมันปาล์มซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงานได้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิดโดยทางกระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งว่าจะมีการเช็กสต๊อกมากขึ้นจากเดือนละครั้งเป็น 2 สัปดาห์ครั้ง เบื้องต้นยังไม่มีการพิจารณาที่จะลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล (บี 100) ในดีเซลจากบี 5 เป็นบี 3 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.นี้ เนื่องจากสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ขณะนี้อยู่ระดับ 2 แสนตันซึ่งระดับปกติจะเฉลี่ยที่ 2-2.5 แสนตัน ประกอบกับผลผลิตปาล์มที่จะออกมาสู่ตลาดใหม่ยังไม่มั่นใจถึงปริมาณที่ชัดเจนจึงยังคงนโยบายบี 3 ไปก่อน
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ของโครงการผลิตไฟฟ้าชุมชนจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed in Tariff (FiT) ส่วนที่เหลือ 100 เมกะวัตต์ จากเดิมกำหนดไว้ในปี 2560 เป็นภายในปี 2562 เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการหารือร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการบริหารจัดหารขยะให้เกิดความชัดเจน อาทิ พื้นที่ที่มีศักยภาพ กฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลทำให้ไม่สามารถ SCOD ได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.รับทราบรายงานความก้าวหน้าร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ... ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2559 ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ โดยให้นำข้อคิดเห็นของกระทรวงต่างๆ ไปประกอบการพิจารณาด้วย และเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ กลับไปยัง ครม.ให้ความเห็นชอบ แล้วจึงส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าวจะสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาประมาณเดือนเมษายน 2560