กรมพัฒน์ฯ เปิดโพยธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรม 30 รายที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจ พร้อมคัด 5 รายเป็นธุรกิจต้นแบบ เผยผู้บริโภคเชื่อมั่นได้ว่าเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส เล็งผลักดันเข้าตลาดเพื่อนบ้าน หลังพบมีการเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐาน
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ทำการพัฒนาด้านการบริหารจัดการธุรกิจให้กับธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรมของไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล โดยล่าสุดมี 30 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจ โดยถือว่าธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดใน 5 ด้าน คือ ด้านการให้บริการ ด้านการตลาด ด้านบุคลากร ด้านบริหารจัดการธุรกิจ และด้านผลประกอบการ ซึ่งจะเป็นการรับประกันว่าธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์เหล่านี้เป็นธุรกิจที่มีความพร้อมในการให้บริการ เป็นธุรกิจที่บริหารงานอย่างโปร่งใส และเชื่อมั่นในการทำธุรกิจได้
ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้แนะนำให้ธุรกิจทั้ง 30 รายมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ เพราะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุน การจัดทำบัญชีอย่างเป็นระบบเพื่อให้รู้และเข้าใจถึงสถานการณ์บริหารจัดการทางการเงิน รวมถึงการศึกษา วิเคราะห์ สภาพปัญหา จุดอ่อนจุดแข็งของธุรกิจ เพื่อให้ภาคธุรกิจนำไปประยุกต์ใช้และปรับปรุงการดำเนินกิจการของแต่ละองค์กรเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคงเข้มแข็ง
“ปัจจุบันไม่เพียงแต่แนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง แต่แนวโน้มด้านนวัตกรรมวัสดุและเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ ก็มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างต้องมีการเรียนรู้และปรับตัว จากการก่อสร้างโดยใช้แรงงานจำนวนมาก มาเป็นวิธีการประกอบจากวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป รวมถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ เข้ามาใช้ ตั้งแต่การออกแบบ การบริหารโครงการก่อสร้าง จนกระทั่งการบริการหลังการขาย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขวางมากขึ้น และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจให้มีความเข้มแข็งรองรับการขยายตัวภาคเศรษฐกิจของประเทศ” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า กรมฯ มีนโยบายส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการก่อสร้างขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังให้ความสำคัญต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาประเทศ โดยคาดว่าธุรกิจบริการก่อสร้างของไทยจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เนื่องจากเทคโนโลยี แรงงานก่อสร้างและวิศวกรรมของไทยมีฝีมือดีเป็นที่ยอมรับ จึงมั่นใจว่าจะขยายเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้านและตลาดโลกได้อย่างแน่นอน
สำหรับธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรมไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้ง 30 ราย ได้แก่ 1. บริษัท เปป เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด 2. บริษัท นิวเทคโนโลยี่ เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด 3. บริษัท เมคเคอร์โฮม จำกัด 4. บริษัท ไทยเซอิ (ไทยแลนด์) จำกัด 5. บริษัท ชำนาญกิจ วิศวกรรม จำกัด 6. บริษัท ธนิสร 98 จำกัด 7. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทย ทรู เอส คอนสตรัคชั่น 8. บริษัท ซีแมค เจนเนอรัล จำกัด 9. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เหนือกว่า 10. บริษัท วิศว์วิวรรธน์ จำกัด 11. บริษัท โชติธนวัฒน์ จำกัด 12. บริษัท ไทยชิงยา จำกัด 13. บริษัท บีวายพี อินโนเวชั่น จำกัด 14. บริษัท มหาพร จำกัด 15. บริษัท สยามพรีคาซท์ บิวดิ้ง แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 16. บริษัท บิลเลี่ยนแนร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด 17. บริษัท พี เค พรีคลาส จำกัด 18. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีคชาบุตร ไคโย่ เน็ตเวอร์ค 19. บริษัท ซี แอนด์ พี (กรุงเทพฯ) จำกัด 20. บริษัท เดอะโมเดอร์น กรุ๊ป เรียลพร็อพเพอทิ จำกัด 21. บริษัท ณุษา จำกัด 22. บริษัท แองเจิ้ล ซิตี้ จำกัด 23. บริษัท พิโด้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 24. บริษัท ไซน์คอน กรุงเทพ จำกัด 25. บริษัท กรีน บิลด์ อินโนวอลล์ จำกัด 26. บริษัท เอ พลัส เรียลเอสเตท จำกัด 27. บริษัท ประภัสสรพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 28. บริษัท ภูธเนษฐ์ พัฒนาการ จำกัด 29. บริษัท เดอะฟินิกซ์ 99 จำกัด 30. บริษัท ยูโร-โอเรียนเตล คอนสตรัคชั่น จำกัด
ทั้งนี้ ในจำนวนธุรกิจทั้ง 30 ราย กรมฯ ได้คัดเลือกธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรมไทยอันดับที่ 1-5 เป็นธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรมต้นแบบ (Best Practice)