ผู้จัดการรายวัน 360 - “ออนดีมานด์” เผยรายได้ 8 เดือนแรกโต 20% พร้อมยอดนักเรียนสะสมเกินครึ่งล้านคน เดินหน้าเปิดการเรียนการสอนหลักสูตรอินเตอร์ครบ 50 สาขาทั่วประเทศในปี 2559 พร้อมขยายหลักสูตรประถมฯ ในช่วงไตรมาส 4 จัดงบฯ 40 ล้านบาทพัฒนาบุคลากรและไอที เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน
นายสาธร อุพันวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันของโรงเรียนกวดวิชาในปัจจุบันนับว่ารุนแรงและสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558 โดยทิศทางการทำตลาดจะเปลี่ยนไปตามกระบวนการศึกษา โดยเฉพาะหลักสูตรอินเตอร์ซึ่งได้รับความนิยมจากนักเรียนในการสอบเข้าเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงเรียนกวดวิชาแต่ละแห่งเริ่มเปิดหลักสูตรอินเตอร์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเปิดสอนในลักษณะตัวต่อตัวที่มีกระจายอยู่ทั่วไปยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วย ในขณะที่การกวดวิชาในระดับประถมศึกษาเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดเช่นเดียวกัน
ปัจจุบัน “ออนดีมานด์” มี 45 สาขาครอบคลุมทุกภูมิภาค และคาดว่าจะเปิดสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีก 5 สาขาภายในสิ้นปี 2559 ส่วนผลประกอบการในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมามีรายได้เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20% ขณะที่มีจำนวนนักเรียนสะสมประมาณ 6 แสนคน และยังมีนักเรียนที่เข้ามาสมัครเรียนเพิ่มประมาณ 7 หมื่นคนต่อปี คิดเป็นนักเรียนหลักสูตรอินเตอร์และประถมฯ ประมาณ 5-10%
กระแสความนิยมในหลักสูตรอินเตอร์และประถมฯ ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ “ออนดีมานด์ อินเตอร์” ที่เปิดการเรียนการสอนเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ โดยมีนักเรียนให้ความสนใจและสมัครเรียนกันอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้เปิดหลักสูตรอินเตอร์ไปแล้ว 2 สาขา และตั้งเป้าว่าครึ่งปีหลังจะขยายให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ ขณะที่หลักสูตรประถมศึกษาได้เริ่มเปิดที่พญาไทเป็นแห่งแรก ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก จึงได้วางแผนจะขยายการเรียนการสอนเพิ่มเติมตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าว่าจะครอบคลุมครบทุกสาขาภายในปี 2560
“สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้จะใช้งบประมาณ 40 ล้านบาทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านบุคลากรและไอที โดยในครึ่งปีหลังจะใช้งบประมาณ 15 ล้านบาทสำหรับซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใหม่จำนวน 1 พันเครื่อง รวมทั้งพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้นักเรียนมีประสิทธิภาพในการเรียนมากกว่าเดิม ซึ่งเชื่อว่าแผนงานทั้งหมดที่ออนดีมานด์จะดำเนินการจะทำให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง” นายสาธรกล่าวในที่สุด
ด้าน นายสุธี อัสววิมล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการโรงเรียนกวดวิชา “ออนดีมานด์” กล่าวว่า นโยบายที่ “ออนดีมานด์” จะให้ความสำคัญนับจากนี้ไปคือ การเน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางและพร้อมเข้าไปช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ได้มุ่งให้ความรู้ด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยขัดเกลาและเสริมสร้างกำลังใจอีกด้วย เพราะจากการที่อาจารย์และทีมงานคลุกคลีอยู่กับนักเรียนมาตลอด พบว่าแม้เด็กไทยจะมีความเฉลียวฉลาด แต่ยังมีปัญหาหลักๆ อยู่ 3 อย่าง คือ ไม่มีเป้าหมาย ขาดกำลังใจ และไม่ทราบวิธีการหาทางออกที่เหมาะสม
“โดยเฉพาะนักเรียนอายุ 14-16 ปี ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อและอยู่ในช่วงของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้บางครั้งตัดสินใจผิดพลาดได้ ดังนั้น ออนดีมานด์จึงจะมีการจัดกิจกรรมแนะแนวในเรื่องต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน อาทิ กิจกรรมเลือกที่ใช่ยังไงก็สอบติด ซึ่งเป็นการให้คำแนะนำปรึกษาในการเลือกคณะแก่นักเรียนเป็นรายบุคคลและช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงการเรียนในปัจจุบันอย่างถูกต้อง”
นายสุธียังกล่าวต่อว่า เป้าหมายสำคัญของนักเรียนในการมาเรียนคือต้องการสอบติดในคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ ดังนั้น นอกจากจะมีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนและจัดกิจกรรมแนะแนวแล้ว “ออนดีมานด์” ยังได้จัด Mock Exam ซึ่งเป็นการจำลองสนามสอบเพื่อให้นักเรียนได้สัมผัสบรรยากาศการสอบเสมือนจริง ไม่ว่าจะเป็นการใส่ชุดนักเรียน หรือการไปสอบที่มหาวิทยาลัย โดยหลังจากสอบจะสามารถทราบผลได้ทันที รวมทั้งยังมีทีมอาจารย์มาเฉลยข้อสอบเพื่อให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้น
“ในช่วงที่ผ่านมาเราได้จัดสอบไปแล้ว 2 วิชา คือ Medical หรือความถนัดทางแพทย์ และ GAT/PAT มีนักเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมสอบกว่า 4 พันคน โดยสิ้นปีนี้จะมีการจัดสอบเพิ่มอีก 6 สนามสอบ เช่น 7 วิชาสามัญ และสอบเข้าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เพื่อให้เด็กไทยได้รับประโยชน์สูงสุดและมีอนาคตที่ดีในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป” นายสุธีกล่าวในตอนท้าย