กรมพัฒน์ฯ เดินหน้าพัฒนาธุรกิจลอจิสติกส์ จัดระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ รับมือการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้น พร้อมผลักดันใช้นวัตกรรมในการทำธุรกิจ และดันธุรกิจที่มีความพร้อมเข้าสู่มาตรฐานสากล OHSAS 18001 และ ISO 39001
น.ส.รัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 9-11 ก.ย. 2559 กรมฯ ได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “รวมพลัง LSPs สู่ Thailand 4.0” ขึ้น ณ จังหวัดชลบุรี โดยเป็นการรวมพลังเครือข่ายผู้ประกอบธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์ของไทย (LSPs) ครั้งใหญ่ จำนวนกว่า 200 ราย เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายสมาชิกธุรกิจ เข้าด้วยกัน และมีการระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจ LSPs ตลอดจนร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจระหว่างกัน
ทั้งนี้ ในการพบปะกันครั้งนี้ได้มีการอัปเดตสถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์ทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งแนวโน้มธุรกิจในอนาคต เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมในการปรับตัวและเพื่อรองรับ Thailand 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ได้มีการวางแนวทางการพัฒนาส่งเสริมธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง โดยเน้นให้ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการสร้างความร่วมมือระหว่างธุรกิจโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเพื่อลดช่องว่างทางธุรกิจ ตลอดจนสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันตามนโยบายของรัฐบาล
น.ส.รัตนากล่าวว่า กรมฯ ได้ผลักดันธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์ของไทยที่มีความพร้อมเข้าสู่มาตรฐานสากล คือ OHSAS 18001 (ระบบบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย) และ ISO 39001 (ระบบการจัดการความปลอดภัยของการจราจรทางบก) เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันแก่ธุรกิจในอนาคต
ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 6 ก.ย. 2559) กรมฯ ได้ดำเนินโครงการยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์สู่มาตรฐานสากล ISO 9001 (มาตรฐานของระบบบริหารงานคุณภาพ) โดยมีธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์ของไทยผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 แล้วจำนวนทั้งสิ้น 343 ราย แบ่งเป็น 1. ขนส่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่ง 231 ราย (คิดเป็นร้อยละ 67.3) 2. บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 43 ราย (คิดเป็นร้อยละ 12.5) 3. ตัวแทนออกของรับอนุญาต 41 ราย (คิดเป็นร้อยละ 12.0) 4. บริการลอจิสติกส์ครบวงจร 16 ราย (คิดเป็นร้อยละ 4.7) และ 5. คลังสินค้า 12 ราย (คิดเป็นร้อยละ 3.5)