รมต.กระทรวงวิทย์ฯ ชี้ถึงเวลาที่คณะวิศวะทุกสถาบันการศึกษาจับมือเพิ่มศักยภาพเทคโนโลยี นวัตกรรมให้แก่ประเทศ นำความรู้ออกจากห้องวิจัยต่อยอดธุรกิจให้ได้ ด้านภาคเอกชนเล็งเทรนด์วิศวะไทย 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต, ระบบขนส่ง, พลังงาน, หุ่นยนต์, อาหารและยา นำประเทศก้าวสู่ Thailand 4.0
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยภายในงาน “วิศวะ ’59” โดยได้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “Engineering Innovation for Thailand 4.0” ว่า ประเทศไทยต้องปรับตัวให้ทันกระแสโลกด้วยการเตรียมตัวก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 โดยทุกภาคส่วนต้องเร่งเพิ่มศักยภาพทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ โดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาต้องเร่งพัฒนาและปั้นบุคลากรตั้งแต่เด็ก
ทั้งนี้ ทิศทางการขับเคลื่อนของไทยเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น หากมีการขยายความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ทุกสถาบันมาผนึกร่วมกัน โดยใช้ความรู้ที่มีอยู่ในห้องวิจัยนำมาพัฒนาหรือคิดค้นปรับใช้ เพื่อให้เกิดผลงานที่สามารถต่อยอด ขยายผลในเชิงพาณิชย์ในอนาคต อีกทั้งยังสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ เป็นการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้แก่ประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
ด้าน รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า งานวิศวะ ’59 ในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ คณะวิศวกรรมจากหลายสถาบัน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนวงการอุตสาหกรรมยุคใหม่ได้เข้ามาร่วมโชว์ผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยี ในปีนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของการจับคู่ทางธุรกิจ โดยมีกลุ่มธุรกิจจากญี่ปุ่นเข้าร่วมงานกว่า 50 บริษัท สอดคล้องกับการเตรียมตัวก้าวเข้าสู่ ยุค Thailand 4.0 ยุคที่ธุรกิจจะต้องแข่งขันกันด้วยความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
ด้านนายทัศพันธุ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิสิเนส อีเว้นท์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือญี่ปุ่นมีประชากรรุ่นใหม่น้อย เจ้าของกิจการก็เริ่มสูงวัยแล้ว ฉะนั้นการสืบทอดธุรกิจต้องมาหาพันธมิตรในเมืองไทย โดยเฉพาะนักธุรกิจที่มีความคิดใหม่เพื่อสร้าง Start up ในการต่อยอดธุรกิจของเขา ดังนั้นเทรนด์ด้านวิศวกรรมไทยเราต้องเน้นทั้ง 5 คลัสเตอร์หลักๆ ที่จะเกิดขึ้นใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ เช่น กลุ่มการใช้ระบบอินเทอรเน็ตผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีที่หลากหลาย กลุ่มการพัฒนาระบบรางและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ กลุ่มพลังงานทดแทน หุ่นยนต์และการควบคุมอัตโนมัติ และกลุ่มอาหารและยา
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *