“เพย์ออล” ชูผลสำเร็จในรอบ 1 ปีของการเปิดดำเนินธุรกิจ หลังผลตอบรับเหนือความคาดหมายเดินหน้าขยายองค์กรเชิงรุก พร้อมแต่งตั้ง นายสมคิด ลวางกูร นักสร้างแบรนด์มืออาชีพนั่งแท่นซีอีโอคนใหม่ รวมถึงการผลักดันแผนรองรับการเติบโตในอนาคตด้วยการขยายพื้นที่สำนักงานเพิ่มเป็น 6 เท่า และดึงระบบ MLC เข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจ อีกทั้งยังใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นที่แรกในโลก ระบุเพย์ออลยังตอกย้ำแนวความคิดเดิม คือเปลี่ยนรายจ่ายเป็นรายรับ หวังสร้างรายได้ให้สมาชิกรับรายได้เพิ่มขึ้น มั่นใจแผนรุกตลาดและการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องจะผลักดันให้เพย์ออลขึ้นสู่แบรนด์ในระดับสากลที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกได้สูงสุดในเร็วๆ นี้
นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้ง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ภายหลังจากที่เพย์ออลได้เปิดดำเนินธุรกิจครบรอบ 1 ปีก็ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น หรือจำนวนผู้ที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และยอดขายที่เพิ่มขึ้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมาถึงกว่า 200% หรือประมาณ 250 ล้านบาทจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จำนวนสมาชิกที่เข้ามาในระบบอาจสูงเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว
ทั้งนี้ จากความสำเร็จดังกล่าว เพย์ออลได้เตรียมแผนรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ด้วยการปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ และได้แต่งตั้งนายสมคิด ลวางกูร ให้เข้ามาเป็นกรรมการบริหาร เนื่องจากได้พิจารณาแล้วว่า นายสมคิดเป็นผู้ที่มีความสามารถ ตลอดจนเป็นนักสร้างแบรนด์มืออาชีพ เป็นบุคคลที่เหมาะสม อีกทั้งยังเคยบริหารสนามบินขนาดใหญ่ และทันสมัยที่สุดในโลกจนประสบความสำเร็จติดระดับ World Record มาแล้วถึง 2 สนามบิน
นอกจากนี้ เพย์ออลยังเตรียมขยายการลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้อีกประมาณ 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณในส่วนการพัฒนาระบบการปฏิบัติการและการตลาดประมาณ 60 : 40 ทั้งนี้ รวมถึงการขยายพื้นที่สำนักงานและการบริการเพิ่มเป็น 6 เท่าของพื้นที่เดิมที่มีอยู่เดิมประมาณ 500 ตร.ม. เป็น 3,000 ตร.ม. ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุม Lobby ในส่วนต้อนรับและการให้บริการ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยคาดว่าจะเป็นสำนักงานใหม่ ในย่านถนนรัชดาภิเษก รวมถึงการปรับระบบงานโดยใช้
Software เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการแทนคน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สะดวก
รวดเร็วยิ่งขึ้น และที่สำคัญในปีนี้ เราได้นำเอาแอปพลิเคชันเพย์ออลไปต่อยอดธุรกิจ ด้วยระบบ MLC หรือ (Multilevel Consumer Network Platform ) เข้ามาช่วยในการทำงาน โดยยอดล่าสุดที่กำลังจะปิดในเดือนนี้ เพย์ออลมีสมาชิกที่สร้างรายได้ถึงเดือนละ 1 ล้านบาทแล้วถึง 3 คน และรายได้เดือนละ 100,000 บาท อีกมากกว่า 10 ราย ถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง ของการนำระบบ MLC เข้ามาใช้ในระบบ ช่วยให้เครือข่ายผู้บริโภคได้รวมกลุ่มกัน และมีความเหนียวแน่นและทำให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นได้ โดยเฉพาะในด้านการบริหาร การจัดการ การนำแอพพลิเคชั่นเพย์ออล ไป Run บน Business Platform MLC ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ล่าสุดที่เราคิดค้นขึ้นมาเป็นรายแรกของโลก เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของเพย์ออล เลยก็ว่าได้ จึงมั่นใจว่าระบบ MLC นี้ จะช่วยผลักดันให้เพย์ออลสามารถสร้างรายได้มากถึง 1,000 ล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า
จากผลการวิจัยด้านการตลาดจากเอไอบี ที่ระบุว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมาการช้อปปิ้งผ่านอุปกรณ์ไร้สายจะสร้างรายได้รวมกันทั่วโลกได้ 163 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 12% ของรายได้จากการขายผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งผลการวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบริษัท ที่มองว่าการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านอุปกรณ์ไร้สายจะมีมูลค่า 31 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2559
ทั้งนี้ นายรัฐภูมิได้กล่าวสรุปเพิ่มเติม ถึงทิศทางการเติบโตในปีนี้ของเพย์ออลว่า “สำหรับเป้าหมายของบริษัทคือการเร่งสร้างแบรนด์แอปพลิเคชันเพย์ออลให้เป็นที่รู้จัก และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นทุกด้านเพื่อให้สมาชิกและผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้รับความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นเพียงนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ หรือกลุ่มสินค้าและบริการที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท โดยปัจจุบัน เพย์ออลมีร้านค้า และบริการที่เข้าร่วมอยู่กว่า 1,000 ร้านค้า ล่าสุดเพย์ออลได้ร่วมกับ ลาซาด้า (LAZADA) ซึ่งมีร้านค้าอยู่ในเครืออีกกว่า 1 แสนราย จึงมั่นใจว่าภายใน 2 ปีหน้าแบรนด์เพย์ออลจะสามารถพัฒนาให้มีศักยภาพ แข็งแกร่งทั้งในและระดับสากล