xs
xsm
sm
md
lg

ปลดล็อกเกาะภูเก็ต แก้ไขผังเมือง-ความสูงอาคาร เปิดพื้นที่รับนักลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต จับมือภาคเอกชนทั้งหอการค้า และสมาคมอสังหาฯภูเก็ต เปิดเวทีเสวนา “ปลดล็อกเกาะภูเก็ต” รับฟังความเห็นชาวภูเก็ตปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผังเมือง เพิ่มความสูงอาคารในบริเวณพื้นที่ที่ 8 หวังดึงกลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้าพื้นที่มากขึ้น

จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต และหอการค้าจังหวัดภูเก็ต จัดเสวนาเรื่อง “ร่วมด้วยช่วยกัน ปลดล็อกเกาะภูเก็ต” ณ โรงแรมดาราภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีการให้ความรู้เรื่องผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต โดย นายทวี หอมหวน โยธาธิการและผังเมืองภูเก็ต ความรู้เกี่ยวกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการสิ่งแวดล้อม เรื่องเขตควบคุมมลพิษ โดย นายณัฐกฤษณ์ พลเพชร นักวิชาการชำนาญการพิเศษ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการกำหนดความสูง ขนาด และกิจกรรมอาคารจำแนกตามรูปแบบเศรษฐกิจ โดย อ.ฐาปนา บุญยประวิตร ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการผังเมือง พร้อมทั้งเปิดเวทีเสวนา ปลดล็อกเกาะภูเก็ต โดย นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัยพย์ภูเก็ต นายสุรชัย ชัยวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต และนายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองภูเก็ต โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนชาวภูเก็ต เข้าร่วม ณ โรงแรมดารา ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา

การจัดเสวนาดังกล่าวเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในภูเก็ต ว่า มีความต้องการที่จะปรับปรุงแก้ไขผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปี 2553 ที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้หรือไม่ เพื่อให้ผังเมืองและประกาศดังกล่าวมีความสอดคล้องต่อการเติบโตของภูเก็ตในปัจจุบัน รวมทั้งที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้รับการประสานจากภาคเอกชนที่วางแผนจะเข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนหลายราย แต่ติดปัญหาการก่อสร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 23 เมตร ในพื้นที่บริเวณที่ 8 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 2553
นายสุรชัย ชัยวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต
นายสุรชัย ชัยวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงภาพรวมการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตในปัจจุบัน ว่า จังหวัดภูเก็ตขณะนี้มีการพัฒนาในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวในหลายๆ ส่วน ทั้งในส่วนของการคมนาคม มีการลงทุนก่อสร้างทางลอดตามแยกต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด การศึกษาออกแบบรายละเอียดที่จะก่อสร้างถนนสายใหม่ในเส้นทางจากสาคู มายังบางคู การขยายสนามบินภูเก็ตที่กำลังจะเสร็จในเร็วๆ นี้ เพื่อรับรองนักท่องเที่ยวให้ได้เพิ่มขึ้น และเท่าที่ทราบขณะนี้นักลงทุนรายใหญ่จากต่างประเทศหลายรายสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในจังหวัดภูเก็ต แต่ยังติดปัญหาในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่ออาคาร และสิ่งหนึ่งที่ยากจะฝากให้มีการระบุในการแก้ไขประกาศหรือผังเมือง คือ เรื่องของสถานที่จอดรถสำหรับอาคารต่างๆ เพราะในปัจจุบันภูเก็ตประสบปัญหาเรื่องที่จอดรถมาก อย่างกรณีของคอนโดมิเนียมที่สร้างหลายร้อยห้องแต่มีที่จอดรถไม่เพียงพอ ต้องจอดตามริมถนน สร้างปัญหาด้านการจราจร เป็นต้น
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต
ด้าน นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัยพ์ภูเก็ต ระบุว่า การจะปลดล็อกภูเก็ตจากประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ หรือผังเมืองหรือไม่นั้นจะต้องเป็นการเห็นด้วยจากชาวภูเก็ต ที่จะต้องมีการหารือในเรื่องนี้กันอีกหลายรอบเพื่อให้เป็นความต้องการของชาวภูเก็ตจริงๆ เมื่อคนภูเก็ตเห็นด้วยต่อการปรับปรุงประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ และผังเมือง ทางภาคเอกชนโดยหอการค้าฯ และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฯ จะนำเรื่องนี้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่านเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต (กรอ.) เพื่อที่ทางจังหวัดภูเก็ต จะได้เสนอต่อไปยังหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ในการเปิดเวทีเสวนาในครั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมทั้งประชาชนชาวภูเก็ตไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะคัดค้านการปรับปรุงประกาศดังกล่าว เพียงแต่มีการเสนอแนะให้เติมเต็มในส่วนของที่มากกว่าเรื่องของความสูงอาคาร ทั้งในเรื่องของระยะถอยร่น ที่ว่างของอาคาร รวมไปถึงการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป

นายกสมาคมอสังหาฯ กล่าวต่อว่า ตนมาอยู่ภูเก็ตตั้งแต่ยุคเหมืองแร่ และเริ่มเข้าสู่ยุคของการท่องเที่ยว จนมาถึงปัจจุบันภูเก็ตกำลังจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ความสวยงามของธรรมชาติลดน้อยลง เราจะเพิ่มในส่วนของการเป็นเมืองท่องเที่ยวเพื่อการชอปปิ้ง เพื่อดึงนักท่องเที่ยว และเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่ม เพราะขณะนี้ภูเก็ตมีแหล่งชอปปิ้งใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง ทั้ง เซ็นทรัล และเดอะมอลล์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น คิงเพาเวอร์ และที่มีอยู่แล้วหลายๆ แห่งที่เป็นจุดชอปปิ้งของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นประเด็นว่าเราจะปลดล็อกภูเก็ตหรือไม่ เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติควบคู่ไปกับเมืองชอปปิ้ง

“ประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ และผังเมืองที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันอาจจะไม่ตอบโจทย์การเข้ามาลงทุนของนักลงทุนทั้งหมด เพราะนักลงทุนหลายคนมองว่า ที่ดินในภูเก็ตราคาสูงมาก หากก่อสร้างตามประกาศที่มีอยู่อาจจะคืนทุนช้า ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนอาจทำให้การลงทุนชะงักได้ แต่หากมีการปรับปรุงและแก้ไขเรื่องความสูงของอาคารในบริเวณที่ 8 แล้ว เชื่อว่าการลงทุนในภูเก็ตจะคึกคักมากขึ้น จากที่นักลงทุนสามารถดำเนินการลงทุนในที่ดินได้มากยิ่งขึ้น และในส่วนของราชการเองก็มีปัญหาหลายๆ โครงการเช่นกันที่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากติดประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการถนนสายหลวงปู่สุภา ถึงป่าตอง ที่ต้องตัดผ่านป่าสงวนแห่งชาติ และความสูงเกิน 80 เมตร โครงการสายไฟฟ้าแรงสูงขนาด 50 KV ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่เสาสูงกว่า 23 เมตร เป็นต้น” นายธนูศักดิ์ กล่าวและว่า

การแก้ไขปรับปรุงประกาศฯ ดังกล่าวคงจะไม่ทำเหมือนกันทั้งจังหวัด แต่จะดำเนินการให้เหมาะสมแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เหมาะสมต่อพื้นที่นั้น ให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากยิ่งขึ้น และคิดว่าน่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงเฉพาะในส่วนของบริเวณที่ 8 เท่านั้น ที่กำหนดความสูงของอาคารไว้ที่ 23 เมตร และเท่าที่ทราบในขณะนี้มีนักลงทุนหลายรายที่จะเข้ามาลงทุนแต่ติดปัญหาเรื่องความสูงของอาคาร เช่น โครงการชิงช้าสวรรค์ของกลุ่มทุนจากต่างชาติที่ต้องการความสูงถึง 120-200 เมตร และโครงการอื่นๆ และหลังจากนี้ ในส่วนของหอการค้าฯ และสมาคมอสังหาฯ จะเปิดให้นักลงทุนให้แจ้งปัญหาในการลงทุนเข้ามาด้วย เพื่อร่วมการผลักดันให้เกิดการลงทุนในภูเก็ต
นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต
ขณะที่ นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองภูเก็ต กล่าวว่า มาถึงวันนี้กฎหมายผังเมืองของภูเก็ตน่าที่จะได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องต่อการเติบโตของเมืองที่ก้าวกระโดด ซึ่งเราต้องเปิดใจยอมรับว่า ภูเก็ตในปัจจุบันแตกต่างจากภูเก็ตเมื่อก่อนราคาที่ดินสูงขึ้นจากไร่ละ 4 ล้าน เป็นไร่ละ 200 ล้านบาท หากยังกำหนดความสูงเหมือนที่ประกาศฯ ไว้จะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน และโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าในส่วนของถนนสายรองๆ ของป่าตองน่าที่จะเปิดกว้างในเรื่องของความสูง และจากการกำหนดความสูงของอาคารทำให้การลงทุนแผ่ออกสู่วงนอกจากยิ่งขึ้น

“โดยส่วนตัวคิดว่าเราน่าที่จะปรับปรุงในเรื่องของผังเมือง ซึ่งเป็นจังหวะดีที่กรมโยธาฯ กำลังจะปรับปรุงผังเมืองทั่วประเทศ ภูเก็ตน่าที่จะเสนอขอแก้ไขในส่วนของความสูงอาคารให้เหมาะสมแต่ละพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน”

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น