ใครที่พิสมัยดนตรีคลาสสิกอันไพเราะ สถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกอันงดงามและโรแมนติก ผสานไปกับการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้โลกกว้าง ต้องปักหมุดเอาไว้ที่ “เวียนนา” (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (Austria)
ที่ต้องไปเยือนเมืองเวียนนา นั่นก็เพราะว่าเมืองนี้ได้รับสมญานามว่าเป็น “นครแห่งเสียงดนตรี” เพราะนักแต่งเพลงคลาสสิกชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บีโธเฟ่น, โมสาร์ต, โยฮัน สเตราส ก็ล้วนแต่มีบ้านอยู่ที่นี่ ซึ่งนอกจากเสียงดนตรีคลาสสิกที่อวลอายอยู่ในเมืองแห่งนี้แล้ว บรรยากาศตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็ยังทำให้เรารู้สึกได้ถึงความโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ดอกไม้ ต้นไม้ หรือแม้แต่ผู้คน
ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความโรแมนติกของเมืองนี้ ทำให้ “ตะลอนเที่ยว” ก็ไม่พลาดที่จะต้องมาเยือนสักครั้ง ซึ่งหากว่ามาถึงเมืองเวียนนาแล้ว ก็ต้องมาเริ่มต้นที่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียนนา นั่นคือ “พระราชวังเชินบรุนน์” (Schloss Schonbrunn) อันเป็นพระราชวังฤดูร้อน อดีตที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 18
พระราชวังเชินบรุนน์ มีความสวยงามมาก ลักษณะเป็นตึก 3 ชั้น มีปีก 2 ข้าง ด้านนอกของตัววังทาด้วยสีเหลืองทอง และด้านในวังมีห้องต่าง ๆ จำนวนมากถึง 1,441 ห้อง แต่เปิดให้เข้าชมเพียงไม่กี่ห้อง อาทิ ห้องทรงพระอักษร ห้องพระราชพิธี ห้องทรงพระสำราญ ท้องพระโรง ห้องบรรทม ห้องแกลลอรี่ ห้องฉลองพระองค์ ห้องเสวย ทุกห้องล้วนตกแต่งด้วยวัสดุที่มีความวิจิตรประณีตแตกต่างกันไป มีทั้งหินอ่อน ลายทอง ที่ดูแล้วสวยงามอลังการ
ส่วนรอบๆ พระราชวังนั้นก็เป็นอีกจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมได้เป็นจำนวนมาก โดยด้านหลังของพระราชวังนั้นเป็นอุทยานที่กว้างขวางมาก พื้นที่ส่วนกลางจะตกแต่งสวนในสไตล์อังกฤษ เปิดเป็นพื้นที่โล่ง ประดับประดาด้วยสวนดอกไม้ที่ตัดแต่งเป็นรูปภาพต่างๆ หลากสีสัน ส่วนด้านหลังก็มีน้ำพุขนาดใหญ่ที่มีประติมากรรมเทพเจ้าเนปจูนที่งดงาม
ด้านหลังของน้ำพุจะเป็นเนินเขาขนาดย่อม ที่หากว่าเดินขึ้นไปด้านบนแล้วจะสามารถมองเห็นพระราชวังเชินบรุนน์ได้ในมุมสูง พร้อมๆ กับตัวเมืองเวียนนาโดยรอบ และบนเนินเขานี้มีซุ้มระเบียงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “Gloriette” ตั้งตระหง่านให้มองเห็นได้แต่ไกล
ตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตของพระราชวังฤดูร้อนอันแสนงดงามแล้ว ก็พากันมาตื่นเต้นกันต่อที่ “สวนสนุกพราเตอร์” (Prater) ที่นี่เป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย และมีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นกันมากมาย ทั้งแบบสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ อาทิ บ้านผีสิง ม้าหมุน โรลเลอร์โคสเตอร์ เป็นต้น แต่ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ก็คือ ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 200 ฟุต เป็นชิงช้าสวรรค์ที่อยู่คู่กับเมืองเวียนนามาร้อยกว่าปีแล้ว
สวนสนุกแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเดินเล่นได้ฟรีๆ แต่ถ้าอยากจะเล่นเครื่องเล่นชนิดไหนก็ค่อยซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปเล่น ใครที่อยากมาเดินเล่น ซึมซับความสนุกสนานในวัยเด็ก ก็ลองมาเดินชมกันก่อนที่จะตัดสินใจเล่นเครื่องเล่นก็ได้
อย่างที่บอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่โรแมนติก หากเราได้เดินเล่นไปตามท้องถนนของเมืองเวียนนา ก็จะเห็นสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกสวยๆ ของตึกต่างๆ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีบางจุดที่แสดงออกถึงศิลปะอันมีเอกลักษณ์ มีตึกหน้าตาแปลกๆ แต่ดูสวยมีสไตล์ให้เดินถ่ายรูปกัน อย่างเช่นที่ “KUNST HAUS WIEN Museum Hundertwasser”
หอศิลป์แห่งนี้ ออกแบบโดย Friedensreich Hundertwasser ศิลปินชาวออสเตรีย โดยเป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะของเขา และยังมีนิทรรศการหมุนเวียนของศิลปินคนอื่นๆ จากทั่วโลกมาจัดแสดงให้ได้ชมด้วย
และไม่ไกลกันนักก็ยังมี “Hundertwasser House” ซึ่งเป็นอาคารที่มีแนวคิดและคอนเซ็ปต์จากศิลปินคนเดียวกัน และถือว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์กอีกจุดหนึ่งของเวียนนา ด้วยความน่าสนใจของศิลปะบนตัวอาคาร ทำให้นักท่องเที่ยวต้องแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันอยู่ตลอดเวลา
เดินชมศิลปะกันจนเมื่อยแล้ว ต้องมาพักผ่อนด้วยการเดินชอปปิ้งกันที่ “ถนนคาร์นทเนอร์” (Karntner) ซึ่งถือว่าเป็นถนนคนเดิน และเป็นย่านชอปปิ้งใจกลางเมืองเวียนนาที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาให้ได้ ที่นี่มีทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งจะมีผู้คนเดินขวักไขว่กันตั้งแต่ร้านเปิด จนกระทั่งมืดค่ำ
นอกจากจะมาชอปปิ้งที่นี่แล้ว ในย่านนี้ก็ยังมีสถานที่สำคัญที่ห้ามพลาดอีกหลายจุด เริ่มจากที่ “อาสนวิหารเซนต์สตีเฟ่น” (St. Stephen’s Cathedral) อันศักดิ์สิทธิ์และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญสตีเฟ่น โบสถ์แห่งนี้สร้างตามสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโกธิคและโรมานเนสก์ที่อ่อนช้อยงดงามมาก และสร้างขึ้นบนซากโบสถ์เดิมที่สร้างขึ้นมาก่อนหน้านั้นสองโบสถ์ ตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่ ทรงสูง มียอดปลายแหลม ๆ หลายยอด มีส่วนที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์คือหอคอยทางทิศใต้ที่มีความสูงมาก หากขึ้นมายืนบนหอคอยนี้สามารถชมวิวเมืองเวียนนาได้โดยรอบ
ไม่ไกลจากอาสนวิหารเซนต์สตีเฟ่น ก็ยังมี “Peterskirche” ซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์บาโรค ในศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิก ภายในงดงามอลังการไม่แพ้โบสถ์ใหญ่ๆ เลย และเมื่อออกจากโบสถ์มาแล้ว ก็จะได้พบกับ “Pestsaule” อันเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์สไตล์บาโรค ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกภายหลังจากเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ในกรุงเวียนนา เมื่อปี ค.ศ.1679
อีกฝั่งของย่านชอปปิ้ง ก็ยังมี “พระราชวังฮอฟบวร์ก” (Hofburg Palace) พระราชวังฤดูหนาวกลางเมืองเวียนนา แต่เดิมวังแห่งนี้เป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิในราชวงศ์ฮับส์บวร์กตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้ายเป็นเวลายาวนานกว่า 600 ปี พระราชวังแห่งนี้มีการต่อเติมเสริมแต่งขยายขนาดไปเรื่อยๆ จนมีขนาดใหญ่โต และมีหลายอาคาร ปัจจุบันนี้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ แสดงเครื่องใช้ เครื่องแต่งตัว เครื่องประดับของจักรพรรดิ มีทั้งเสื้อผ้า เพชรพลอยและทองคำล้ำค่าที่หาชมได้ยากยิ่ง
ปิดท้ายที่อีกจุดท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด คือการมาชอปปิ้งที่ “Naschmarkt” (Nasch Market) ซึ่งเป็นตลาดที่เก่าแก่ ยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเวียนนา ตลาดแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 ซึ่งแรกเริ่มนั้นตลาดแห่งนี้เป็นเพียงตลาดค้านมในถังไม้เท่านั้น ต่อมาจึงเริ่มมีเกษตรกรนำผลผลิตทางการเกษตรมาขายที่นี่ด้วย
Naschmarkt นั้นถือว่าเป็นคลังอาหารแห่งกรุงเวียนนา เนื่องจากที่นี่มีทั้งของสด ของแห้ง พืชผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เนย ชีส ของหมักดอง เครื่องเทศ รวมถึงอาหารและเครื่องปรุงจากทั่วโลก ที่นำมารวบรวมไว้ให้เลือกชอปกันอย่างเต็มอิ่ม
นอกจากจะซื้อของสดแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารรสชาติดีหลากหลายสัญชาติมาเปิดขายให้ลองลิ้มชิมรสกันด้วย เรียกว่าเดินชมสินค้ากันเพลินๆ ถ้าหิวก็แวะชิมของอร่อย ก่อนจะออกเดินหน้ากันต่อ
ตลาดแห่งนี้มีระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตร และที่สุดปลายทางตลาดนั้น ในทุกๆ เช้าวันเสาร์ มีเปิดเป็นตลาดขายของมือสอง ทั้งข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า แผ่นเสียง ฯลฯ ที่เดินเลือกซื้อกันได้เพลิดเพลินสุดๆ
“ตะลอนเที่ยว” แนะนำให้เผื่อเวลามาท่องเที่ยวในเวียนนาหลายๆ วันหน่อย เพราะสถานที่แต่ละแห่งนั้นต้องใช้เวลาในการดื่มด่ำชื่นชมความงดงาม ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมสวยคลาสสิก ต้นไม้ ดอกไม้ บรรยากาศผู้คน แล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ระลึกถึงความคลาสสิกและโรแมนติกของเมืองนี้ด้วยแล้วกัน
* * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com