นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจอาหารสำเร็จรูป เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นความคิดริเริ่มของท่านประธาน ธนินท์ เจียรวนนท์ ที่ต้องการอนุรักษ์อาหารไทยต้นตำรับไว้ ด้วยเล็งเห็นว่าอาหารไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในเรื่องรสชาติและวัตถุดิบคุณภาพที่มีในประเทศไทย ทั้งเนื้อสัตว์ เครื่องเทศ สมุนไพร และเครื่องปรุงรสอื่นๆ ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความหลากหลายในการเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ตามวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำแห่งคุณภาพและอาหารปลอดภัยสู่การเป็นครัวของโลกอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้กำหนดไว้ 5 เมนูหลัก คือ แกงเขียวหวานไก่ แกงกะหรี่ไก่ มัสมั่นหมู พะแนงหมู และฉู่ฉี่ปลาทับทิม ซึ่งเป็นเมนูที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีในทุกครัวเรือน ซึ่งก็มีสูตรเด็ดเคล็ดลับในการปรุงและการเลือกใช้วัตถุดิบต่างกัน ตามต้นตำรับหรือสูตรประจำตระกูลที่ได้รับถ่ายทอดกันมาและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น
นายวิทวัส ตันติเวสส รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านการตลาด ซีพีเอฟ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้เปิดกว้างสำหรับผู้สนใจทั่วไปโดยไม่จำกัดจำนวน ผู้สนใจสามารถส่งใบสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม-30 กันยายน 2559 โดยส่งรูปถ่ายอาหารพร้อมเรื่องราว แกงไทยประจำบ้านและสูตรในการทำแกง ไปที่ www.ซีพีสุดยอดแชมป์แกงไทย.com หรือตู้ ปณ.151 ปณจ.ลาดพร้าว หรืออีเมล cpcookingcontest@cpbrandsite.com และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2800-8000 ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลสูงถึงเมนูละ 1 ล้านบาท ที่สำคัญจะเป็นการยกระดับอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ในด้านรสชาติและความละเมียดละไมในการปรุงให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศ และในระดับโลกต่อไป
ทั้งนี้ การแข่งขันจะแบ่งเป็น 3 รอบ โดยจะคัดเลือกจากผู้สมัครทั้งหมดให้เหลือ 500 คน เข้าสู่ 1.) รอบแรก ท้าชิม โดยผู้แข่งขันจะปรุงอาหารสูตรลับของตนเองจากที่บ้านเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารได้ชิม ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็ม ควอเทียร์ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2559 โดยจะคัดเลือกผู้สมัครให้เหลือ 100 คน 2) รอบ ท้าปรุง 100 คนที่ผ่านเข้าสู่รอบนี้ต้องโชว์วิธีการปรุงเมนูอาหารของตนเอง ณ วิทยาลัยดุสิตธานี ในวันที่ 29-30 ตุลาคม โดยซีพีเอฟเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบในการปรุงไว้ให้ รอบนี้จะคัดผู้ผ่านเข้ารอบต่อไปให้เหลือเพียง 15 คน และ 3.) รอบ ชิงชนะเลิศ จะจัดขึ้น ณ พาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 โดยผู้แข่งขันทั้ง 15 คนจะลงแข่งขันปรุงอาหารเพื่อชิงความเป็นสุดยอดแชมป์แกงไทยในแต่ละเมนู