“พาณิชย์” นัดประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก ก.ย.นี้ จัดทำแผนส่งออกปี 60 ให้สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เผยต่อไปจะเน้นการทำแผนผลักดันการส่งออกโฟกัสธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ธุรกิจบริการ และการผลักดันให้ไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ หมดยุคโปรโมตแค่สินค้าเพียงอย่างเดียวแล้ว
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จะจัดการประชุมร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ในช่วงการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (บางกอกเจมส์) ระหว่างวันที่ 7-11 ก.ย. 2559 เพื่อร่วมกันวางแผนและยุทธศาสตร์การส่งออกของปี 2560 เพื่อให้ สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาประเทศไทยแลนด์ 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมา รวมทั้งจะมีการประเมินสถานการณ์การส่งออกในภาพรวมของปีหน้า ก่อนที่จะมีการกำหนดเป้าหมายตัวเลขการส่งออกที่ชัดเจนอีกครั้งในช่วงปลายปี 2559
“ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกจัดเตรียมแผนงานต่างๆ ของปีงบประมาณ 2560 มาหารือร่วมกัน เพื่อให้การทำงานสอดคล้องสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และจะมีการประเมินเป้าหมายการส่งออกสำหรับปี 2560 เพราะปี 2559 งบประมาณจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. 2559 นี้ อาจไม่สามารถปรับแผนงานใหม่ได้แล้ว แต่กรมฯ ก็จะดำเนินการตามแผนงานเดิมให้ดีที่สุด” นางมาลีกล่าว
นางมาลีกล่าวว่า ในการประชุมทูตพาณิชย์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้ให้ความรู้เรื่องไทยแลนด์ 4.0 แก่ทูตพาณิชย์โดยตรง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทูตพาณิชย์สามารถปรับแผนการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวได้ เพราะในปัจจุบัน รัฐบาลมีนโยบายให้ทูตพาณิชย์ปรับการทำงานให้หลากหลายขึ้น เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ โดยการส่งเสริมการส่งออก ไม่ใช่มุ่งแต่กิจกรรมส่งเสริมการส่งออกสินค้าอย่างเดียว แต่จะต้องมองเป็นแบบบิสซิเนสโมเดลมากขึ้น โดยเน้นเจาะกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถเติบโตได้ดีในอนาคตและให้ผลตอบแทนสูง เช่น กลุ่ม StartUp โดยเฉพาะธุรกิจด้านบริการ แทนที่โปรโมตเพียงแค่กลุ่มสินค้าแบบเดิมๆ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตตัวเลขการส่งออกอาจไม่เป็นจุดโฟกัสหลัก เพราะนโยบายรัฐบาลขณะนี้ได้เน้นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยกรมฯ ก็จะเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศให้มากขึ้น เช่น การจัดสัมมนาการไปลงทุนในต่างประเทศ ในช่วงปลายปี 2559 และจะคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความสนใจไปลงทุนต่างประเทศ จากนั้นจะเข้าไปส่งเสริมผลักดัน ทั้งการให้ความรู้ในการพัฒนาสินค้า การให้ข้อมูลการลงทุนในตลาดต่างๆ ก่อนไปลงทุนจริง รวมทั้งเชิญพี่เลี้ยงผู้มีประสบการณ์ในตลาดนั้นๆ มาให้ความรู้ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ไปลงทุนและประสบความสำเร็จมาแล้ว
นางมาลีกล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างการหารือกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการรายกลุ่มสินค้า เพื่อประเมินสถานการณ์ในช่วงปลายปีให้ชัดเจน ซึ่งตอนนี้ได้พูดคุยไปบางกลุ่มแล้ว เช่น กลุ่มรถยนต์ ที่ระบุว่าการส่งออกทั้งปีอาจจะติดลบได้ เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกอาจไม่สดใส เพราะราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้กลุ่มผู้ซื้อซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่มีกำลังซื้อ รวมถึงยังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจโลก และกฎระเบียบเรื่องสิ่งแวดล้อม ขณะที่กลุ่มผู้ส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟยังคงมองว่าสถานการณ์ส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ยังคงดี
ทั้งนี้ กรมฯ ได้ปรับแผนบริหารจัดการเพื่อเพิ่มยอดการส่งออก โดยได้แบ่งกลุ่มสินค้าส่งออกเป็นรายกลุ่ม 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่จะต้องเร่งผลักดันส่งออก, กลุ่มที่จะสนับสนุนให้เติบโตต่อไป, กลุ่มที่จะต้องติดตามและแก้ไข และกลุ่มที่ต้องเร่งแก้ไข
