เมื่อเร็วๆนี้ เดนท์สุ มีเดีย แลปบอราทอรี่ หรือ ดีเอ็มแลป (dmLab) กลุ่มธุรกิจการพัฒนานวัตกรรมของ บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมออกบู้ทแสดงผลงานด้านการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัล ในงานสัมมนาเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค “เทคซอส ซัมมิท 2559” (Techsauce Summit 2016) ซึ่งวัตถุประสงค์การจัดงานดังกล่าวเพื่อส่งเสริมนโยบายหลักของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ธุรกิจสตาร์ทอัพ และ เอส เอ็ม อี ประเทศไทยพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้ง ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และ ผู้ที่สนใจ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ และเปิดประสบการณ์ในการสัมผัสนวัตกรรมดิจิทัลเพื่ออนาคตจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
ภายในงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก มร.โยอิจิ นิวะ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นวิทยากรรับเชิญแบ่งปันความรู้ เกี่ยวกับการนำเอาข้อมูลในโลกดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น
มร.นิวะ ร่วมแบ่งปันความรู้และแสดงผลผลิตนวัตกรรมดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงานสัมมนาได้สัมผัสเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด อาทิเช่น เครื่องมือวัดคลื่นสมอง “นูโรเบรน” นวัตกรรมที่สามารถวัดผลความสุขได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะวิเคราะห์ผลจากคลื่นสมองของผู้ที่สวมใส่ ซึ่งหากผู้สวมใส่รู้สึกมีความสุข ค่าที่แสดงผลออกมาจะแสดงให้เห็นปริมาณความสุขที่เกิดขึ้นได้ทำให้ ”ความสุขวัดได้” ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวสร้างขึ้นจากการใช้ศาสตร์ในเรื่อง Neuro Technology หรือ เทคโนโลยีการศึกษาสมอง จิตใต้สำนึก ความคิด และกิจกรรมต่างๆ ที่สมองทำงานและสั่งการนำมาวัดความรู้สึกและอารมณ์ของมนุษย์ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ
นอกจากนี้ ปัจจุบันกระแสของบิ๊กดาต้า (Big Data) กำลังอยู่ในกระแสทำให้ Data Visualization ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย ซึ่ง Data Visualization หรือการนำข้อมูลมานำเสนอด้วยภาพ เพื่อให้เข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยหัวใจสำคัญของการทำ Data visualization นั้นคือ การนำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอในรูปแบบของ Interactive Data Visualization ช่วยให้นักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถเลือกดูข้อมูลบางส่วนและนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลหลายๆกลุ่มได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลมีความแม่นยำเพิ่มขึ้น
อีกทั้งภายในงานยังมีแสดงนวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะ โรโบฮอน (RoBoHoN) ซึ่งหุ่นยนต์ดังกล่าวนี้คิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท ชาร์ป คอร์ปเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของหุ่นยนต์โรโบฮอน นี้คือ การนำ ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสียง คำสั่ง ภาพ ข้อความ หรือตัวเลขมาประมวลผลเพื่อการแสดงออกในรูปแบบต่างๆผ่านระบบปฏิบัติการที่มีเทคโนโลยีการวิเคราะห์เสียง และภาพใบหน้า ในขณะเดียวกันก็สามารถรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi และ LTE ได้รวมถึงภายในมีเครื่องฉายภาพ หรือโปรเจกเตอร์เป็นส่วนประกอบอีกด้วย และด้วยขนาดกะทัดรัด 8 นิ้วนี้ทำให้หุ่นยนต์โรโบฮอน นี้สามารถเต้นระบำ เดิน ยืน นั่ง อ่านหนังสือ และส่งข้อความตอบกลับ รวมถึงแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้ทราบว่า มีข้อความเข้าสู่ระบบได้ด้วยการยกแขน เรียกว่า สามารถทำงานเป็นโทรศัพท์มือถือได้ทุกประการ อาจกล่าวได้ว่า นี้คือการนำเอาประโยชน์ของเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ถือเป็นการเชื่อมโยงนวัตกรรมกับลูกค้าเพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
นอกจากนี้ dmLab เน้นการสร้างโอกาสให้กับผู้ริเริ่มธุรกิจ (Startup) ในประเทศต่างๆได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศ อีกทั้งช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจมีการเติบโตอย่างมั่นคงรวมถึงสามารถยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากลได้ โดย dmLab มุ่งเน้นผนึกกำลังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เน้นการทำงานแบบมีส่วนร่วมกัน โดยมีการประสานงานกับพาร์ทเนอร์ และ สตาร์ทอัพ แต่ละประเทศทั้งในและนอกประเทศ เรียกว่า Local Incubation และ Gateway to Global Innovation อย่างแท้จริง
สำหรับหน่วยงาน dmLab ในประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการจัดตั้ง dmLab ขึ้นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี dmLab มีแผนการขยายหน่วยงานไปยังประเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการนักลงทุนชาวไทย และชาวต่างชาติ ร่วมงานอย่างคับคั่ง ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาพบปะเหล่าสตาร์ทอัพเมืองไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน และหน่วยงานภาครัฐเข้ามาให้ความรู้ และข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้อัพเดท ดิจิทัลเทรนด์ ข้อมูลข่าวสาร และความรู้สามารถนำไปใช้พัฒนาธุรกิจของตนเอง และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และปรับตัวให้รู้เท่าทันนวัตกรรม รวมถึงเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันด้านเทคโนโลยีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อนึ่ง งานเทคซอส ซัมมิทประจำปี 2559 จัดขึ้นโดยบริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ถือเป็นงานสัมมนา ด้านเทคโนโลยีระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่รวบรวมสุดยอดข้อมูลข่าวสาร ผู้ประกอบการ นักลงทุน ภาครัฐ และสื่อมวลชน จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับ Tech Startup เอาไว้อย่างครบวงจรโดยงานสัมมนาดังกล่าว จัดขึ้น ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างที่ 23-24 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา
(ข่าวประชาสัมพันธ์)
ภายในงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก มร.โยอิจิ นิวะ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นวิทยากรรับเชิญแบ่งปันความรู้ เกี่ยวกับการนำเอาข้อมูลในโลกดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น
มร.นิวะ ร่วมแบ่งปันความรู้และแสดงผลผลิตนวัตกรรมดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงานสัมมนาได้สัมผัสเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด อาทิเช่น เครื่องมือวัดคลื่นสมอง “นูโรเบรน” นวัตกรรมที่สามารถวัดผลความสุขได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะวิเคราะห์ผลจากคลื่นสมองของผู้ที่สวมใส่ ซึ่งหากผู้สวมใส่รู้สึกมีความสุข ค่าที่แสดงผลออกมาจะแสดงให้เห็นปริมาณความสุขที่เกิดขึ้นได้ทำให้ ”ความสุขวัดได้” ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวสร้างขึ้นจากการใช้ศาสตร์ในเรื่อง Neuro Technology หรือ เทคโนโลยีการศึกษาสมอง จิตใต้สำนึก ความคิด และกิจกรรมต่างๆ ที่สมองทำงานและสั่งการนำมาวัดความรู้สึกและอารมณ์ของมนุษย์ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ
นอกจากนี้ ปัจจุบันกระแสของบิ๊กดาต้า (Big Data) กำลังอยู่ในกระแสทำให้ Data Visualization ได้รับความสนใจมากขึ้นด้วย ซึ่ง Data Visualization หรือการนำข้อมูลมานำเสนอด้วยภาพ เพื่อให้เข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยหัวใจสำคัญของการทำ Data visualization นั้นคือ การนำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอในรูปแบบของ Interactive Data Visualization ช่วยให้นักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถเลือกดูข้อมูลบางส่วนและนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลหลายๆกลุ่มได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลมีความแม่นยำเพิ่มขึ้น
อีกทั้งภายในงานยังมีแสดงนวัตกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะ โรโบฮอน (RoBoHoN) ซึ่งหุ่นยนต์ดังกล่าวนี้คิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท ชาร์ป คอร์ปเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของหุ่นยนต์โรโบฮอน นี้คือ การนำ ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสียง คำสั่ง ภาพ ข้อความ หรือตัวเลขมาประมวลผลเพื่อการแสดงออกในรูปแบบต่างๆผ่านระบบปฏิบัติการที่มีเทคโนโลยีการวิเคราะห์เสียง และภาพใบหน้า ในขณะเดียวกันก็สามารถรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi และ LTE ได้รวมถึงภายในมีเครื่องฉายภาพ หรือโปรเจกเตอร์เป็นส่วนประกอบอีกด้วย และด้วยขนาดกะทัดรัด 8 นิ้วนี้ทำให้หุ่นยนต์โรโบฮอน นี้สามารถเต้นระบำ เดิน ยืน นั่ง อ่านหนังสือ และส่งข้อความตอบกลับ รวมถึงแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้ทราบว่า มีข้อความเข้าสู่ระบบได้ด้วยการยกแขน เรียกว่า สามารถทำงานเป็นโทรศัพท์มือถือได้ทุกประการ อาจกล่าวได้ว่า นี้คือการนำเอาประโยชน์ของเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ถือเป็นการเชื่อมโยงนวัตกรรมกับลูกค้าเพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
นอกจากนี้ dmLab เน้นการสร้างโอกาสให้กับผู้ริเริ่มธุรกิจ (Startup) ในประเทศต่างๆได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศ อีกทั้งช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจมีการเติบโตอย่างมั่นคงรวมถึงสามารถยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากลได้ โดย dmLab มุ่งเน้นผนึกกำลังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เน้นการทำงานแบบมีส่วนร่วมกัน โดยมีการประสานงานกับพาร์ทเนอร์ และ สตาร์ทอัพ แต่ละประเทศทั้งในและนอกประเทศ เรียกว่า Local Incubation และ Gateway to Global Innovation อย่างแท้จริง
สำหรับหน่วยงาน dmLab ในประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการจัดตั้ง dmLab ขึ้นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี dmLab มีแผนการขยายหน่วยงานไปยังประเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการนักลงทุนชาวไทย และชาวต่างชาติ ร่วมงานอย่างคับคั่ง ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาพบปะเหล่าสตาร์ทอัพเมืองไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน และหน่วยงานภาครัฐเข้ามาให้ความรู้ และข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้อัพเดท ดิจิทัลเทรนด์ ข้อมูลข่าวสาร และความรู้สามารถนำไปใช้พัฒนาธุรกิจของตนเอง และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และปรับตัวให้รู้เท่าทันนวัตกรรม รวมถึงเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันด้านเทคโนโลยีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อนึ่ง งานเทคซอส ซัมมิทประจำปี 2559 จัดขึ้นโดยบริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ถือเป็นงานสัมมนา ด้านเทคโนโลยีระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่รวบรวมสุดยอดข้อมูลข่าวสาร ผู้ประกอบการ นักลงทุน ภาครัฐ และสื่อมวลชน จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับ Tech Startup เอาไว้อย่างครบวงจรโดยงานสัมมนาดังกล่าว จัดขึ้น ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างที่ 23-24 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา
(ข่าวประชาสัมพันธ์)
