“อภิรดี” เผยสหรัฐฯ โชว์ผลสำรวจนักธุรกิจ มองเศรษฐกิจอาเซียนด้านบวก แย้มมีแผนลงทุนเพิ่ม พร้อมเปิดศูนย์เชื่อมอาเซียน 3 เมืองใหญ่ ก.ย.นี้ ส่วนการหารืออาเซียน-จีน สั่งเร่งปรับปรุง FTA ไทยเสนอแก้ปัญหาเหล็กจีนทุ่มตลาด ด้าน FTA อาเซียน-ญี่ปุ่นฉลุย ตกลงเปิดตลาดบริการและการลงทุนได้แล้ว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ที่ สปป.ลาว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้รายงานผลการจัดทำ ASEAN Business Outlook Survey ประจำปี 2560 ซึ่งผลสำรวจระบุว่าเอกชนสหรัฐฯ ยังมีทัศนคติด้านดีต่อเศรษฐกิจของอาเซียน จึงมีแผนที่จะขยายการลงทุนมากขึ้น และยังได้แจ้งว่าจะเปิด ASEAN Connect Centre ใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ จาการ์ตา และสิงคโปร์ มีกำหนดเริ่มดำเนินการในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ สองฝ่ายยังได้เห็นชอบการสร้างความโปร่งใสในการออกนโยบายและกฎระเบียบ และการเพิ่มความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันด้วย
สำหรับการหารือของอาเซียนกับจีน ได้ผลักดันให้ประเทศที่ยังไม่ให้สัตยาบันพิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) เร่งดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้ใช้ประโยชน์จาก ACFTA ได้อย่างเต็มที่ หลังจากที่ข้อตกลงได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2559 กับจีน เวียดนาม สิงคโปร์ สปป.ลาว พม่า และบรูไน และยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งเจรจาเรื่องการปรับปรุงกฎถิ่นกำเนิดสินค้าให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี การเร่งลดภาษีในรายการสินค้าอ่อนไหวให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และการปรับปรุงการคุ้มครองและการเปิดเสรีการลงทุนให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี นับจากกลางปีนี้
“ในการหารือครั้งนี้ อาเซียน-จีนยังได้ตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือด้านการลงทุนภาคการผลิตระหว่างกัน โดยจะมีการนำเสนอให้ผู้นำรับรองในการประชุมซัมมิตช่วงปลายปีนี้ เพื่อเป็นการฉลองโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 25 ปี ขณะที่ไทยได้ใช้โอกาสนี้ ผลักดันให้มีการจัดประชุมร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนของอาเซียน-จีน เพื่อแก้ไขปัญหาเหล็กจีนที่ทะลักเข้ามาในตลาดอาเซียน และสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมเหล็กอาเซียน ซึ่งจีนได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว”นางอภิรดีกล่าว
ส่วนการหารือกับฮ่องกง ที่ประชุมได้เร่งรัดให้คณะทำงานเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกงให้เสร็จภายในปีนี้ หลังจากเจรจากันไปแล้ว 7 ครั้งสามารถบรรลุผลการเจรจาส่วนใหญ่ได้แล้ว ทั้งการค้าสินค้า พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า และกฎเกณฑ์ทางการค้า
นางอภิรดีกล่าวว่า การหารือความคืบหน้าการทำ FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น สามารถบรรลุผลการเจรจาด้านการค้าบริการและการลงทุนได้แล้ว โดยการค้าบริการจะครอบคลุมเรื่องการเงิน โทรคมนาคม และการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และด้านการลงทุนจะครอบคลุมกฎเกณฑ์การเปิดเสรี การคุ้มครอง และการอำนวยความสะดวกทางการลงทุน และยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่หาข้อสรุปในประเด็นคงค้าง เช่น การปรับเปลี่ยนพิกัดศุลกากรตามของตารางการลดภาษีศุลกากร (TRS) และบัญชีกฎถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้าให้เป็นไปตามระบบฮาร์โมไนซ์รอบปีล่าสุดเพื่อให้มีความทันสมัย เป็นต้น
ทั้งนี้ อาเซียน-ญี่ปุ่นยังได้เห็นชอบต่อแผนงานยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ระยะ 10 ปี ฉบับปรับปรุงใหม่ ครอบคลุมระยะเวลาดำเนินการระหว่างปี 2559-2568 โดยเน้นการร่วมมือในสาขาต่างๆ เช่น วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทรัพย์สินทางปัญญา และมาตรฐานต่างๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ไทยได้หารือกับ Mr. Hiroshige Seko รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น โดยไทยพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับญี่ปุ่นในการเชื่อมต่อไปยังประเทศ CLMV และได้ขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนโครงการสถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ภายใต้ JTEPA ขณะที่ญี่ปุ่นของให้ไทยเริ่มต้นเจรจาเรื่องการเปิดเสรีเพิ่มเติมสินค้ายานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 3,000 ซีซี
ส่วนการหารือกับอินเดีย ได้เห็นชอบให้มีการทบทวนความตกลงการค้าสินค้า ครอบคลุมประเด็นเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า พิธีการศุลกากร การการอำนวยความสะดวกทางการค้า มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า และกฎถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้า การเปิดเสรีการค้าสินค้าเพิ่มเติม การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้า และการสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย