xs
xsm
sm
md
lg

“ดอยคำ” ทุ่มพันล้านผุดโรงงานบุรีรัมย์ รุกแฟรนไชส์ร้านค้าปลีกทั่วไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายพิพัฒพงษ์  อิศรเสนา ณ อยุธยา (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประ ธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด และ นายสรภัส สุดเธียรกุล (ขวา) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ผู้จัดการรายวัน360 - “ดอยคำ” เปิดเกมรุก วางแผนทุ่มงบ 1 พันล้านบาทสร้างโรงงานใหม่ที่เดิมบุรีรัมย์ พร้อมอัปเกรดการผลิต ขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ เปิดขายแฟรนไชส์ร้านค้าปลีก “ครอบครัวดอยคำ” 3 โมเดล หวังกระจายจังหวัดละ 1 สาขา ภายใน 5 ปีลุยตลาดส่งออก

นายพิพัฒพงษ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เปิดเผยว่า “ดอยคำ” อยู่ในตลาดมานานกว่า 40 ปีแล้ว โดยมีภารกิจหลักคือ การส่งเสริมการเพาะปลูกและนำผลผลิตของเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมในพื้นที่โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปทั้ง 3 แห่งมาแปรรูปตามแนวทาง “เกษตรเพื่อชุมชน ผลิตผลเพื่อคนไทย”

ล่าสุดได้ทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่โดยเปลี่ยนสัญลักษณ์ หรือโลโก้ใหม่ บรรจุภัณฑ์ใหม่ และมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและมีกำลังซื้อมากขึ้นด้วย จากเดิมที่เน้นกลุ่มมีอายุรักสุขภาพ อายุ 35 ปีขึ้นไป

นายสรภัส สุดเธียรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า หากทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลงในช่วง 2 ปีหน้า บริษัทฯ มีแผนลงทุน 1 พันล้านบาทเพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ในที่เดิมในจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ประมาณ 40 กว่าไร่ ซึ่งเดิมเป็นโรงงานอยู่แล้วแต่ไม่ได้ใช้มานาน บางส่วนปล่อยให้วิสาหกิจชุมชนเช่า คาดว่าจะเริ่มปรับพื้นที่ปลายปี 2559

ปัจจุบันมี 3 โรงงานคือที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ผลิตอาหารที่บรรจุขวดเป็นหลัก เช่น แยม และน้ำดื่ม, อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผลิตน้ำผลไม้ยูเอชทีเป็นหลัก และ อ.เต่างอย จ.เชียงราย ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับมะเขือเทศเป็นหลัก ซึ่งเมื่อโรงงานใหม่สร้างเสร็จจะเป็นโครงการหลวงแห่งที่ 4 ใหญ่ที่สุดของ “ดอยคำ” อีกทั้งยังจะขยายการรับซื้อวัตถุดิบเพิ่มขึ้นจากเดิมรัศมี 100 กิโลเมตรและเพิ่มจำนวนเกษตรกรในการรับซื้อด้วย คาดว่าจะทำให้มีวัตถุดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เพื่อขยายกำลังการผลิตรองรับตลาดในประเทศและส่งออก

นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะขยายร้านค้าปลีก “ดอยคำ” ในรูปแบบแฟรนไชส์ด้วย จากที่ผ่านมาบริษัทฯ ลงทุนเองมีประมาณ 40 กว่าแห่งแล้วเน้นในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก โดยมีแผนจะขายแฟรนไชส์ทั่วประเทศทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 สาขาชื่อ “ครอบครัวดอยคำ” ซึ่งขณะนี้ทดลองแล้วใน 3 จังหวัด คือ ลำปาง เชียงราย และสกลนคร ตั้งเป้าหมายครบทุกจังหวัดภายใน 5 ปีจากนี้ ซึ่งมี 3 รูปแบบ คือ แบบ A ขนาดใหญ่พื้นที่เฉลี่ย 80 ตารางเมตรขึ้นไป มีผลิตภัณฑ์ทุกอย่างของ “ดอยคำ” มีมุมชากาแฟ และอาหารจำหน่าย, แบบ B ไม่มีอาหารจำหน่าย และแบบ C มีแต่สินค้า “ดอยคำ” จำหน่าย แต่ไม่มีอาหารและไม่มีมุมชากาแฟ

สำหรับแผนขยายตลาดต่างประเทศนั้น นายสรภัสกล่าวว่า จะทำตลาดอย่างจริงจังในต่างประเทศด้วยการแต่งตั้งเอเยนต์ทำตลาดให้ จากเดิมที่มีผู้นำเข้าซื้อไปจำหน่ายเองซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ที่สนใจในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ รวมทั้งเวียดนาม กัมพูชา และลาว

ปัจจุบัน “ดอยคำ” มีส่วนแบ่งตลาดในตลาดน้ำผลไม้ยูเอชทีประมาณ 20% เป็นอันดับที่สามในตลาดระดับพรีเมียมและมีเดียมที่มีมูลค่าประมาณ 6 พันล้านบาท โดยมีแบรนด์ “ทิปโก้” เป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 28%, “มาลี” แชร์ 22% โดยในปี 2558 มีรายได้รวม 1,480 ล้านบาท และคาดว่าปี 2559 จะมีรายได้รวม 1,800 ล้านบาท มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออก 10% และมีเป้าหมายที่จะส่งออกไม่เกิน 10-20% จากรายได้รวม



กำลังโหลดความคิดเห็น