ผู้จัดการรายวัน360 - “ทิปโก้” เร่งออกสินค้าใหม่ หวังดันตลาดรวมน้ำผลไม้ให้โต คาดปีนี้โตแค่ 5% ทรงๆ เหตุคนไทยยังดื่มน้อย และมีน้ำผลไม้สดหาซื้อดื่มง่าย อัดงบตลาดรวม 150 ล้านบาท ล่าสุดส่ง ทิปโก้พลัสคอลลาเจน ลงตลาด คาดสิ้นปีนี้มีสินค้าใหม่อีก 2 ตัว
นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมน้ำผลไม้ในไทยที่ผ่านมาค่อนข้างนิ่งเติบโตเฉลี่ย 5% เท่านั้น จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 14,000 ล้านบาท เนื่องจากตลาดไม่ค่อยมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ออกมากระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผลไม้มากและน้ำผลไม้สดหาซื้อดื่มง่ายด้วย
โดยปริมาณการดื่มน้ำผลไม้ของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่ในต่างประเทศอย่าง แคนาดา เฉลี่ย 40 ลิตรต่อคนต่อปี หรืออเมริกา ประมาณ 20 ลิตรต่อคนต่อปี
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเปรียบเทียบในแง่ของจำนวนประชากรของไทยที่มีประมาณ 65-70 ล้านคน เฉลี่ยเพิ่มปีละ 1-2% ขณะที่ค่าจีดีพีของไทยเติบโต 2-3% ก็ถือได้ว่าการเติบโตของตลาดรวมน้ำผลไม้ในไทยแค่ 5% นี้ก็ดีแล้ว
ทั้งนี้ ทิปโก้ในฐานะผู้นำตลาดน้ำผลไม้ โดยเฉพาะเซกเมนต์ 100% จึงต้องพยายามสร้างตลาดให้เติบโต ด้วยการออกนวัตกรรมสินค้าใหม่ต่อนื่อง โดยไม่เน้นเรื่องการทำราคาลดแลกแจกแถมเหมือนแบรดน์อื่น ซึ่งปี 2559 นี้วางแผนที่ออกสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 6 ตัว ซึ่งที่วางตลาดตั้งแต่ต้นปีแล้ว เช่น 1. ซัมเมอร์เบสต์ มี 2 รสชาติ คือ น้ำมะพร้าวกับน้ำมะม่วง 2. น้ำผัก ขนาด 10 บาท เน้นขายต่างจังหวัด และล่าสุดคือ 3. ทิปโก้พลัสคอลลาเจน และปลายปี้จะมีออกอีกอย่างต่ำ 2 ตัว โดยงบการตลาดใช้รวมทั้งปีทุกตัว 150 ล้านบาท
ล่าสุดเปิดตัว “ทิปโก้ พลัส คอลลาเจน” น้ำผลไม้ 100% ผสมคอลลาเจน รายแรกในตลาด ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของทิปโก้ก็ว่าได้ที่มาลงเล่นในตลาดเฮลตี้แอนด์บิวตี้ จากเดิมที่เน้นเฮลตี้มาตลอด และมีการผสมคอลลาเจนเป็นครั้งแรกของทิปโก้ มี 3 รสชาติคือ ส้ม ทับทิม และอโลเวรา ที่เป็นรสชาติที่โดดเด่นที่สุด 2 ขนาด คือ ยูเอชที 200 มล. ราคา 20 บาท และขนาด 1 ลิตร ราคา 79 บาท โดยเฉลี่ยแล้วราคาสูงกว่าทิปโก้100% แบบเดิมประมาณ 10% ผ่านตัวแทนจำหน่ายคือ บริษัท ซีโน เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ทั้งช่องทางเทรดิชันนัลเทรด และโมเดิร์นเทรด
กลยุทธ์ตลาด ใช้งบ 100 ล้านบาทกับตัวใหม่นี้สูงที่สุดในปี 2559นี้ จากงบรวมทั้งปี 150 ล้านบาท ด้วยการตลาดแบบ 360 องศา โดยได้นางเอก “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักอายุ 25 ปีขึ้นไป มีกิจกรรมและแคมเปญการตลาดต่อเนื่อง “ดื่มแล้วยัง / ดื่มแล้วYOUNG ” ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
นายเอกพลกล่าวต่อว่า จากการรุกตลาดด้วยการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลต่อยอดขายรวมปีนี้ประมาณ 3,300 ล้านบาท หรือเติบโต 5% จากปีที่แล้ว แบ่งสัดส่วนรายได้ในกลุ่มเครื่องดื่มแยกเป็น น้ำผลไม้ สัดส่วน 70% น้ำแร่ออร่า สัดส่วน 20% และชา สัดส่วน 10% โดยปัจจุบันทิปโก้มีส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้ประเภท 100% มากถึง 50% เป็นผู้นำตลาด จากมูลค่าตลาดรวมกลุ่มนี้ที่มี 4,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 3-5%