xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าญี่ปุ่นคาดเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังดีขึ้น ยันมีแผนเพิ่มการลงทุนอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หอการค้าญี่ปุ่นเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้นหลังไทยมีเสถียรภาพ และคาดเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น เผยบริษัทญี่ปุ่นกว่า 33% มีแผนขยายการลงทุนเพิ่ม “พาณิชย์” ได้ทีจีบเข้ามาลงทุนเพิ่ม หลังไทยปรับยุทธศาสตร์มุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิตอล อุตสาหกรรมอนาคต และประเทศไทย 4.0 ย้ำพร้อมหนุน SMEs ญี่ปุ่นจับคู่กับ SMEs ไทยทำธุรกิจ

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายชินโกะ ซาโตะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (JCC) ว่า ทาง JCC ได้นำคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาแนะนำตัว พร้อมหารือประเด็นทางเศรษฐกิจต่างๆ รวมถึงรายงานผลการสํารวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2559 โดยผลการสำรวจดังกล่าวระบุว่าบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยมีแนวโน้มเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นกว่าครึ่งหลังของปี 2558 เพราะประเทศไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2559

ทั้งนี้ บริษัทญี่ปุ่นร้อยละ 33 มีแผนจะขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และบริษัทญี่ปุ่นอีกร้อยละ 50 จะไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณการส่งออกจากประเทศไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ยืนยันว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนชาวญี่ปุ่น รวมถึงประสานหน่วยงานอื่นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามที่นักลงทุนญี่ปุ่นได้เรียกร้อง เช่น พิธีการศุลกากรของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย เป็นต้น

นางอภิรดีกล่าวว่า ไทยได้แจ้งญี่ปุ่นไปว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และผลักดันให้ไทยมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยได้ปรับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนและนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้มีการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (2017-2035) จัดทำนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล การกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต และนโยบายประเทศไทย 4.0 และไทยพร้อมต้อนรับนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ตามนโยบายที่ได้กำหนดขึ้น

“ได้บอกกับภาคเอกชนญี่ปุ่นว่ารัฐบาลมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน มีนโยบายต่างๆ ที่จะสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อต่อการทำธุรกิจและการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการ การยกระดับอุตสาหกรรมสู่การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Thailand Plus One ของญี่ปุ่น และมีความยินดีที่จะต้อนรับนักลงทุนญี่ปุ่น” นางอภิรดีกล่าว

นางอภิรดีกล่าวว่า ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ขอให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของญี่ปุ่น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มีจำนวนสมาชิกผู้ประกอบการ SMEs ของญี่ปุ่นมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จึงต้องการให้รัฐบาลไทยออกมาตรการส่งเสริมแรงจูงใจในการลงทุนให้มากกว่าที่ได้รับในขณะนี้ ซึ่งไทยได้แจ้งว่าพร้อมที่จะพิจารณาให้เพราะสอดคล้องกับนโยบายในการส่งเสริม SMEs ของไทย โดยจะผลักดันให้มีการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างกันให้ได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าต้องการผลักดันให้การเจรจาความตกลงดังกล่าวบรรลุผลได้ภายในปลายปี 2559 ตามที่ได้ตกลงไว้ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศสมาชิกทั้ง 16 ประเทศ

สำหรับญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทย รองจากจีน โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2554-2558) มีมูลค่าการค้าเฉลี่ยปีละ 62,031.29 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2558 มูลค่าการค้ารวมประมาณ 51,311.75 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2557 ที่มีมูลค่า 57,247.38 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 10.37 ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนของปี 2559 (ม.ค.-พ.ค.) การค้าร่วมระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมีมูลค่า 20,889.77 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 4.38
กำลังโหลดความคิดเห็น