xs
xsm
sm
md
lg

ราคาขายปลีกน้ำมันของไทยสัปดาห์นี้ยังมีโอกาสลุ้นลดราคาต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันของไทยสัปดาห์นี้ยังมีโอกาสปรับลดลง โดยต้องรอลุ้นน้ำมันตลาดโลกหลังตลาดรอผลประชุมเฟดขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่วันที่ 26-27 ก.ค.นี้ โดยตลาดคาดว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเมื่อวันที่ 25 ก.ค.แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันของไทยในสัปดาห์นี้ยังจำเป็นจะต้องติดตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกใกล้ชิดว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรโดยเฉพาะน้ำมันดิบดูไบที่ไทยใช้อ้างอิงเป็นหลัก รวมถึงราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ ซึ่งภาพรวมขณะนี้ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่

“ที่ผ่านมาราคาน้ำมันขายปลีกของไทยมีการเคลื่อนไหวที่เร็วเช่นเดียวกับราคาน้ำมันตลาดโลกที่แกว่งตัวก่อนหน้านี้ โดยสัปดาห์หนึ่งมีการขึ้นลงมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งทางผู้ค้าก็พยายามจะให้สะท้อนต้นทุนโดยเร็ว” นายพงษ์ชัยกล่าว

แหล่งข่าวจาก บมจ.ปตท.กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกยังรอดูผลการประชุมเฟดที่แน่ชัดอีกครั้งแม้ว่าที่ผ่านมาจะคาดเดาว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม ทำให้ระดับราคาน้ำมันยังคงทรงตัวและอ่อนค่าลงเล็กน้อยในภาพรวม ดังนั้นคาดว่าสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันขายปลีกในไทยจะมีลักษณะทรงตัวและปรับลดลง

รายงานข่าวจาก บมจ.ไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ลดลงมากกว่า 2% โดยน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ปรับมาอยู่ที่ 43.13 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 41.13 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 0.26 เหรียญต่อบาร์เรล จากความกังวลราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจะล้นตลาดอาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลกับอุปสงค์ได้ช้ากว่าเดิม นอกจากนี้ น้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากค่าเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับความกังวลต่อปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเหลือตกค้างค่อนข้างมากหลังฤดูท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ใกล้หมดลง

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่น่าจับตามองคือการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 26-27 ก.ค.นี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้าลง เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น