xs
xsm
sm
md
lg

ทย.ดีเดย์ 1 ธ.ค.59 เก็บค่า APPS “กระบี่-สุราษฎร์” พร้อมยกเครื่องระบบสายพาน-เอกซเรย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.)
กรมท่าอากาศยานเตรียมประกาศเก็บค่าคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ใน ส.ค.นี้ โดยเริ่มเก็บจริงตั้งแต่ 1 ธ.ค. 59 ที่กระบี่, สุราษฎร์ธานี สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ 35 บาท/คน พร้อมเร่งจ้าง “กลุ่มโสมาภา-สามารถคอมเทค” ติดตั้งระบบเหมือน ทอท. “จุฬา” เผยปี 60 เตรียมลงทุน 700 ล้านยกเครื่องระบบเอกซเรย์ 3 สนามบิน เพิ่มมาตรฐานปลอดภัย

นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ทย.จะเริ่มจัดเก็บระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (Advance Passenger Processing System : APPS) วันที่ 1 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป กับผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งขาเข้า-ขาออก และผู้โดยสารเปลี่ยนผ่านลำ (Transit / Transfer) โดยจัดเก็บค่าธรรมเนียมร่วมกับค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินในอัตรา 35 บาทต่อผู้โดยสาร 1 ท่านต่อเที่ยว เริ่มต้นที่สนามบินกระบี่, สุราษฎร์ธานี และขอนแก่น โดยจะมีการประกาศแจ้งในเดือนสิงหาคมนี้ก่อน ตามระเบียบที่จะต้องแจ้งล่วงหน้า 4 เดือนก่อนจัดเก็บ เนื่องจากสายการบินจะมีการขายตั๋วล่วงหน้า ซึ่งจะสอดคล้องกับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วล่วงหน้า เพื่อเดินทางในเดือนธันวาคมจะต้องจ่ายค่า APPS รวมกับค่าตั๋วโดยสารได้

ทั้งนี้ เป็นไปตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ที่ได้อนุมัติหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการอำนวยความสะดวกเพื่อตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าสำหรับกรมท่าอากาศยาน รวมถึงสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบางกอกแอร์เวย์ส

โดยขณะนี้ ทย.อยู่ระหว่างจ้างติดตั้งระบบ APPS ซึ่งเป็นบริษัทที่วางระบบ APPS ให้กับ 6 สนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. คือกลุ่ม 2S Consortium ประกอบด้วย บริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สามารถคอมเทค จำกัด เนื่องจากจะต้องให้เป็นระบบเดียวกัน

“ค่าบริการที่เรียกเก็บ 35 บาทต่อผู้โดยสาร 1 คนนั้น จะจ่ายให้กับบริษัทผู้ติดตั้งระบบประมาณ 30 บาท ที่เหลือจะเป็นค่าบริหารจัดการของสายการบินประมาณ 1 บาทกว่า และเหลือจะจัดส่งเข้ารัฐ โดยระบบ APPS จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้โดยสารล่วงหน้าของผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า-ขาออก และผู้โดยสารเปลี่ยนลำและผ่านลำที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น ซึ่งระบบ APPS จะช่วยคัดกรองผู้โดยสาร Black List ที่ปะปนอยู่กับผู้โดยสารทั่วไป ไม่ให้เดินทางผ่านเข้ามาหรือออกจากประเทศ ตั้งแต่ในขณะที่ผู้โดยสารเช็กอินกับสายการบิน สามารถช่วยให้ทุกการเดินทางของผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย และการติดตั้งที่สนามบินของ ทย. จะทำให้ไม่มีช่องว่างของมาตรฐานความปลอดภัยในการเข้าออกประเทศ และยังทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการเดินทาง อีกทั้งยังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการบินของไทยที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ด้วย”

นายจุฬากล่าวว่า ในปี 2560 ทย.จะมีการลงทุนปรับปรุงระบบสายพานและเอกซเรย์สัมภาระผู้โดยสารที่สนามบินกระบี่, สุราษฎร์ธานี, อุดรธานี วงเงินรวมประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย โดยจะใช้รูปแบบเหมือนสนามบินดอนเมืองของ ทอท. นอกจากนี้ จะมีการลงทุนพัฒนาสนามบินภูมิภาค 2 แห่ง เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คือโครงการปรับปรุงขยายท่าอากาศยานแม่สอดให้แล้วเสร็จใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2561 ใช้เงินลงทุน 1,472 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง วงเงิน 1,900 ล้านบาท ดำเนินการ 3 ปี (2559-2561)

อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2560 ทย.ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณที่ 3,260 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ได้รับงบประมาณ 2,189 ล้านบาท เนื่องจากมีการลงทุนพัฒนาหลายเรื่องหลังจากที่ได้ปรับโครงสร้างแยกกรมการบินพลเรือน(บพ.) เดิมออกเป็นกรมท่าอากาศยาน ดูแลบริหารสนามบินภูมิภาค 28 แห่ง และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ทำหน้าที่กำกับดูแลด้านการบิน
กำลังโหลดความคิดเห็น