xs
xsm
sm
md
lg

"บางกอกแอร์เวย์ส"ไร้วางระเบิด ผู้โดยสารปากพล่อยเจอโทษหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 ก.พ.2559 นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.54 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ว่า ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 4 ท่าน มีการสนทนาที่ทำให้นักบินจำเป็นต้องพิจารณาขอใช้แผนฉุกเฉิน กรณี การขู่วางระเบิดอากาศยาน (Bomb threat on aircraft) บนอากาศยานเที่ยวบิน PG 924 เส้นทางกรุงเทพฯ – ภูเก็ต แบบ A320 ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เวลา 12.30 น. พร้อมด้วยผู้โดยสาร 156 คน และลูกเรือ 8 คน โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่ผู้โดยสารกำลังเก็บสัมภาระติดตัวบนอากาศยาน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ กัปตันเครื่องบินลำดังกล่าวจึงตัดสินใจระงับเที่ยวบินเป็นการชั่วคราว และนำเครื่องเข้าจอดที่หลุมจอด ยังหลุมจอดเฉพาะ (Isolated Parking) บนทางขับสาย C ระหว่าง C8 - C9 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ

ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ ทสภ. จึงได้มีการประกาศใช้แผนฉุกเฉิน บทที่ 9 กรณี การขู่วางระเบิดอากาศยาน (Bomb threat on aircraft) และจัดส่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ของทหาร และสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และกู้ภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์เข้าพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามแผนฉุกเฉินโดยทันที โดยได้มีการนำผู้โดยสารลงจากเครื่องบินเพื่อไปตรวจค้นร่างกาย และนำสัมภาระของผู้โดยสารลงจากเครื่อง เพื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ หลังจากตรวจสอบโดยละเอียดไม่พบว่ามีวัตถุระเบิดซุกซ่อนแต่อย่างใด และทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เตรียมพาผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด เดินทางไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต ด้วยเที่ยวบิน PG 924 เวลา 18.00 น. ของวันนี้

ด้าน พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ไม่ใช่การขู่วางระเบิดแต่อย่างใด โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้โดยสารชาวไทยประกอบด้วย พราหมณ์ 1 คน และลูกศิษย์ เตรียมเดินทางไปภูเก็ต เพื่อไปประกอบพิธี โดยมีกล่องเหล็ก ซึ่งบรรจุอุปกรณ์ทำพิธี เช่น หอยสังข์ กลองบัณเฑาะว์ ถือติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย ซึ่งกล่องเหล็กดังกล่าว ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจ ด้วยเครื่องสแกนเรียบร้อยแล้ว แต่ระหว่างที่ลูกศิษย์ชายคนหนึ่ง กำลังนำกล่องเหล็กขึ้นวางเก็บไว้ที่ช่องเหนือศีรษะ โดยมีเจ้าหน้าที่สายการบินคอยช่วยเหลือนั้น

นายวิชาฤทธิ์ นาเมืองรักษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยพราหมณ์ ก็พูดกำชับว่า ให้วางของอย่างระวัง เดี๋ยวกลองมันจะแตกและระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่า มีระเบิดและแจ้งกัปตันตามขั้นตอน ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่นั้น ต้องรอทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ตัดสินใจอีกครั้ง เนื่องจากไม่ได้เป็นการจงใจพูดขู่วางระเบิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เบื้องต้น มีรายงานว่า ทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้ดำเนินการแจ้งความ ให้ตำรวจดำเนินคดีต่อ นายวิชาฤทธิ์ ในข้อกล่าวหา แจ้งข้อความ หรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นเท็จและการนั้น เป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจกลัว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 แต่ นายวิชาฤทธิ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ขณะที่ ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3/2559 มีใจความว่า ด้วยเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2559 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้รับแจ้งว่าอากาศยานของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบิน PG924 แบบ A320 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-SH-PGG จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต ถูกขู่วางระเบิด เมื่อเวลา 12.50 น. เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสาร 156 คน ลูกเรือ 8 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้โดยสารกำลังเก็บสัมภาระติดตัวบนอากาศยาน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือนักบินผู้ควบคุมอากาศยานได้ตัดสินใจระงับเที่ยวบิน และดำเนินการตามแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสารการบินได้แจ้งความและดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ขอเรียนว่าตาม พ.ร.บ.ควมผิดบางประการของการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จและการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทำ ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท (สองแสนบาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 5 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000บาท (สองแสนบาท) ถึง 600,000 บาท (หกแสนบาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้และจะแจ้งให้ทราบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น