กรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงพื้นที่สำรวจร้านค้าส่งค้าปลีกในการส่งเสริมทั่วประเทศ พบมีร้านที่ควรแนะนำให้เป็นร้านฉลาดซื้อประหยัดใช้ 113 ร้าน จำนวน 537 สาขา ใน 67 จังหวัด เตรียมขยายให้ครบ 77 จังหวัดภายในปีนี้ หลังขายสินค้าจำเป็นถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปไม่น้อยกว่า 10% เผยสามารถซื้อได้ทันที ไม่ต้องรอจัดโปรโมชัน
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินกิจกรรม “ร้านฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” โดยคัดเลือกและสำรวจร้านค้าส่งค้าปลีกที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมฯ ทั่วประเทศ เพื่อแนะนำว่าเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเวลาปกติ ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลาจัดโปรโมชัน โดยลดราคาจากราคาตลาดทั่วไปไม่น้อยกว่า 10% ในจำนวนสินค้าไม่น้อยกว่า 30 รายการ ซึ่งล่าสุดมีร้านค้าส่งค้าปลีกที่เป็นร้านฉลาดซื้อ ประหยัดใช้แล้วจำนวน 113 ร้าน จำนวน 537 สาขา ครอบคลุม 67 จังหวัดทั่วประเทศ และตั้งเป้าที่จะคัดเลือกให้มีครบทั้ง 77 จังหวัดภายในปีนี้
ทั้งนี้ ร้านค้าที่ได้รับการคัดเลือกว่าเป็นร้านที่เหมาะสมกับการเป็นร้านฉลาดซื้อประหยัดใช้ จะต้องมีการจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ และจำหน่ายสินค้าที่เป็นที่ต้องการใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำตาลทราย เกลือ น้ำปลา น้ำมันพืช กาแฟ สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แป้ง ผงซักฟอก และสำลี เป็นต้น
สำหรับร้านค้าปลีกค้าส่ง 113 ราย 537 สาขา ที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว แยกเป็นภาคเหนือ 26 ราย 75 สาขา ใน 15 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 33 ราย 228 สาขา ใน 17 จังหวัด ภาคกลาง 37 ราย 115 สาขา ใน 23 จังหวัด และภาคใต้ 17 ราย 119 สาขา ใน 12 จังหวัด
“ร้านที่ได้รับป้ายตราสัญลักษณ์ ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้นี้ จะเป็นการการันตีว่าเป็นร้านที่ขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาถูกกว่าท้องตลาดไม่น้อยกว่า 10% จริง ซึ่งประชาชนที่เห็นป้ายก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อเลือกหาสินค้าได้ ถือเป็นการลดค่าครองชีพให้ประชาชนอีกทางหนึ่ง โดยกรมฯ จะมีการสำรวจราคาจำหน่ายของร้านค้าส่งค้าปลีกที่เข้าร่วมโครงการเป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อติดตามผลการดำเนินการ” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบว่าร้านค้าส่งค้าปลีกที่เป็นร้านฉลาดซื้อ ประหยัดใช้ อยู่ตรงไหนบ้างนั้น ประชาชนสามารถตรวจสอบได้จากป้ายและธงสัญลักษณ์ถุงสีฟ้าที่หน้าร้านที่ร่วมโครงการ และยังตรวจสอบได้ผ่านแอปพลิเคชัน “ลายแทงของถูก” ของกระทรวงพาณิชย์ โดยจะสามารถตรวจสอบได้ว่าในพื้นที่ที่ตนเองอยู่นั้นมีร้านค้าอะไรบ้าง
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า กรมฯ ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมร้านค้าส่ง ค้าปลีกไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแรงภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรม “ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม” ซึ่งมีกำหนดจัดปี 2 ครั้ง และได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน สร้างมูลค่าการซื้อขายได้มากถึง 3,664 ล้านบาท โดยกรมฯ มีแผนที่จะจัดงานครั้งที่ 9 ในเดือน ก.ย.-ต.ค. 2559 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
สำหรับผลการจัดงานครั้งที่ 8 เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2559 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการค้าส่งเข้าร่วม 65 ราย ร้านค้าปลีกเครือข่าย 5,325 ราย มีมูลค่าการซื้อขายรวมกล่าว 350 ล้านบาท โดยสินค้าที่ขายดีเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมันพืช น้ำปลา ซอสปรุงรส กาแฟ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และนมยูเอชที ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน สบู่ และแป้งเย็น เป็นต้น