“สมคิด” นัดถกผู้บริหารพาณิชย์ ติดตามงานสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ ท่าทีในการเข้าร่วม TPP แผนงานผลักดันการส่งออกที่เหลือของปี
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 14 ก.ค. 2559 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาร่วมประชุมกับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการพัฒนาผู้ประกอบการรายใหม่ (สตาร์ทอัพ) การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ผ่านการจัดตั้งตลาดต้องชม ตลาดชุมชน การผลักดันให้ใช้การค้าออนไลน์ในการเปิดตลาดให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs)
ทั้งนี้ นายสมคิดยังจะติดตามความคืบหน้าการเปิดรับฟังความคิดเห็นการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) หลังจากที่การมาร่วมประชุมติดตามงานก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย. 2559 ได้มอบหมายให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว
ส่วนในด้านการส่งออกจะมีการติดตามสถานการณ์และแผนงานการผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้จะดำเนินการอย่างไร และมีแผนงานเร่งด่วนอะไร รวมไปถึงการดำเนินโครงการต่างๆ ในการผลักดันการส่งออก หลังจากได้รับงบกลางปีจากรัฐบาล เพื่อผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5% แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าที่ยังชะลอตัว
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว่า กรมฯ เตรียมรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน โดยเฉพาะการผลักดันเปิดตลาดต้องชม ที่จะเปิดได้ครบ 77 แห่งใน 77 จังหวัดภายในเดือน ส.ค.นี้ การจัดทำหมู่บ้านทำมาค้าขาย ที่จะเปิดนำร่องให้ได้ 10 แห่งภายในปีนี้ การขยายตลาดสินค้าออร์แกนิก สินค้าอินทรีย์ สินค้าโอทอป
สำหรับการดูแลราคาสินค้า ขณะนี้สถานการณ์ราคาสินค้าอยู่ในภาวะทรงตัว ไม่มีสินค้ารายการใดปรับขึ้นราคา และในด้านการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ ได้มีการขยายจำนวนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิมแล้วกว่า 1.1 หมื่นร้านทั่วประเทศ ซึ่งสามารถช่วยดึงราคาอาหารปรุงสำเร็จให้อยู่ในระดับเมนูละ 35 บาทได้ และยังได้ขยายเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วย