xs
xsm
sm
md
lg

“บีโอไอ” คาดเม็ดเงินลงทุนจริงปีนี้แตะ 6-7 แสนล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บีโอไอ” เผยแนวโน้มการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าระดับ 4.5 แสนล้านบาทหลังครึ่งปีแรก ประเมินจะแตะ 3 แสนล้านบาท ขณะที่การลงทุนจริงที่เกิดจากการส่งเสริมฯ ก่อนหน้านี้จะมีเม็ดเงินแตะระดับ 6-7 แสนล้านบาท

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 2559 การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 45,0000 ล้านบาท จากที่ครึ่งปีแรกประเมินว่าจะมีการยื่นคำขอ 300,000 ล้านบาท ส่วนเม็ดเงินลงทุนจริงปีนี้จากโครงการที่ได้รบัอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วก่อนหน้า คาดว่าจะมีวงเงิน 600,000-700,000 ล้านบาท จากไตรมาสแรกปี 2559 มียอดลงทุนจริงแล้ว 100,000 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2558

สำหรับภาพรวมนักลงทุนยื่นโครงการของรับส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นอัตราเร่งมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรกและต่อเนื่องถึงปี 2560 จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ ของรัฐที่ทยอยออกมาโดยเฉพาะการเร่งขับเคลื่อนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) รวมถึงการแก้ไขกฎหมายบีโอไอให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้นิติบุคคล จากเดิมให้ 8 ปีเป็น 13 ปี และแทคอลาวัล หรือ “หักค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุน”สามารถนำมาหักกำไรเพื่อเสียภาษีเงินได้ในอัตราที่ลดลง

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงมองไทยเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญโดยจากการที่รองนายกรัฐมนตรีนำคณะไป 3 ประเทศที่ผ่านมา ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน เพื่อชักจูงการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งนักลงทุนตอบรับเป็นอย่างดีซึ่งบีโอไอได้โรดโชว์เจาะกลุ่มบริษัทเป้าหมายรายบริษัทที่โฟกัสการลงทุนประมาณ 17 รายนั้น พบว่าขณะนี้มีการทยอยเข้ามายื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนแล้วโดยเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 4 รายเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหารด้านสุขภาพ ยา เครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เกาหลี 1 รายเป็นกิจการซอฟต์แวร์ ส่วนจีนกำลังจะยื่นขอเป็นกิจการออปติกไฟเบอร์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

นางหิรัญญาระบุว่า อุตสาหกรรมด้านชิ้นส่วนโทรคมนาคม ไฟเบอร์ออปติกกำลังเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่นักลงทุนเริ่มสนใจหลังจากไทยได้เปิดใช้คลื่นความถี่ระบบ 4G ขณะที่อุตสาหกรมการแพทย์ก็ได้รับความสนใจ ส่วนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมนั้นนักลงทุนสนใจประเทศไทยมาก แต่ยอมรับว่าตลาดยังมีความต้องการต่ำจึงต้องรอเวลา ดังนั้นจึงมีการเข้ามาตั้งออฟฟิศจากญี่ปุ่น 2 รายแล้วเพื่อติดตามซึ่งอนาคตจะมีการลงทุนแน่นอน

“การส่งเสริมฯ ลงทุนเฉพาะในส่วนของบีโอไอมองว่า ทิศทางครึ่งปีหลัง 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายจะเริ่มเห็นชัด โดยจะเห็นว่าการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ หรือ IHQ/ICT ที่ขณะนี้มี 64 บริษัทแล้ว ถือเป็นสัญญานที่ดี และผลสำรวจขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือเจโทร กรุงเทพฯ พบว่า นักลงทุนญี่ปุ่นยังสนใจลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองจากประเทศสิงคโปร์” นางหิรัญญากล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมที่นักลงทุนสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทยจะอยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และภาคบริการ ได้แก่ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีสูง อาหารเพื่อสุขภาพ ชิ้นส่วนโทรคมนาคมอย่างออปติกไฟเบอร์ และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น