บอร์ด อคส.ไฟเขียวใช้ พ.ร.บ.ร่วมทุน ดึงเอกชนร่วมพัฒนาที่ดินคลังสินค้า 1 ธนบุรี ถ.เจริญนคร เป็นชอปปิ้งมอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เลียนแบบเอเชียทีค ตั้งวงเงินลงทุน 1-5 พันล้านบาท เตรียมชง “บิ๊กตู่” ไฟเขียวเร็วๆ นี้ เผยตั้งกรรมการ 3 ชุด ลุยโครงการแล้ว พร้อมเห็นชอบให้พัฒนาที่ดินในต่างจังหวัดอีก 3 แปลง
พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด อคส.วันที่ 28 มิ.ย. ว่าที่ประชุมได้มีมติให้ อคส.นำที่ดินที่มีอยู่มาพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้แก่องค์กร โดยจะใช้ที่ดินคลังสินค้า 1 ธนบุรี ถ.เจริญนคร มาพัฒนาโครงการตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เบื้องต้นจะทำเป็นศูนย์การค้าและแหล่งชอปปิ้งแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เหมือนเอเชียทีค มูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000-5,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ อคส.ได้เสนอให้ใช้พื้นที่คลังราษฎร์บูรณะ จำนวน 20 ไร่ ที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานแขวนพระราม 9 มาพัฒนาโครงการ แต่จากการลงพื้นที่พบว่าไม่เหมาะสมเนื่องจากมีการทำห้องเย็นให้เช่าเป็นที่เก็บยาขององค์การเภสัชกรรมซึ่งได้ลงทุนไปแล้ว จึงเปลี่ยนมาใช้คลังพื้นที่ธนบุรีแทน และเป็นที่ติดริมแม่น้ำเหมือนกัน โดยประเมินว่าจะเป็นแหล่งรายได้ของ อคส.ที่จะใช้เลี้ยงองค์กรได้ถึง 20 ปี โดยไม่ต้องพึ่งรายได้จากโครงการสินค้าเกษตรของรัฐบาล
ทั้งนี้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ จะลงพื้นที่คลังสินค้า 1 ธนบุรี ในวันที่ 14 ก.ค. 2559 ร่วมกับ อคส.เพื่อสำรวจพื้นที่ก่อนที่จะนำเสนอแผนดังกล่าวต่อคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาอนุมัติ เพราะเป็นการร่วมทุนกับภาคเอกชนที่เกิน 1,000 ล้านบาทต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ ก่อน
พล.ต.ต.ไกรบุญกล่าวว่า บอร์ดได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุด เพื่อดำเนินการพัฒนาที่ดินคลังสินค้า 1 ธนบุรี ให้เป็นไปตามแผน ได้แก่ คณะกรรมการคัดเลือกที่ปรึกษา มีผู้แทนกระทรวงการคลังเป็นประธานจะกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาที่ อคส.จะว่าจ้างศึกษาและวิเคราะห์โครงการและจัดสรรผลประโยชน์รายได้ให้แก่ อคส. จากการดำเนินโครงการคาดว่าการตั้งคณะทำงานเพื่อคัดเลือกที่ปรึกษาจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 14 ก.ค.ที่ รมว.พาณิชย์จะลงพื้นที่ไปดูโครงการ
ส่วนอีก 2 คณะ คือ คณะกรรมการจัดทำทีโออาร์เพื่อกำหนดรายละเอียดที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนดำเนินโครงการกับ อคส. และคณะกรรมการยกร่างสัญญาจ้าง จะเป็นผู้จัดทำรายละเอียดสัญญาในการร่วมทุนกับภาคเอกชน โดยตั้งเป้าไว้ว่าขั้นตอนทั้งหมดจนได้เอกชนเข้ามาร่วมทุนและดำเนินโครงการร่วมกับ อคส.จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และสามารถปรับปรุงพื้นที่เพื่อให้เป็นไปตามแผนได้ภายในปี 2560
สำหรับคลังสินค้า 1 ธนบุรี มีพื้นที่ 7,884 ตารางวา หรือประมาณ 19 ไร่ มูลค่าที่ดินประมาณ 1,206 ล้านบาท คิดจากราคาตลาดที่ดินอยู่ที่ 1.53 แสนบาท/ตารางวา
พล.ต.ต.ไกรบุญกล่าวว่า บอร์ด อคส.ยังได้เห็นชอบให้ใช้ประโยชน์จากที่ดิน อคส.อีก 3 แปลงในต่างจังหวัด โดยคลังสินค้าทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื้อที่ 5.97 ไร่ มีแผนจะทำเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าการเกษตรภายใต้โครงการประชารัฐ ซึ่งอาจจะเปิดให้เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน โดยปัจจุบันให้เอกชนเช่าเหมาเป็นสถานที่จอดรถบรรทุกปูนซีเมนต์อยู่
สำหรับคลังสินค้าบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 30.8 ไร่ อคส.มีแผนจะลงทุนเป็นพื้นที่ให้บริการสนับสุนนลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร เช่น ลานตาก, เครื่องนวด, เครื่องเก็บเกี่ยว คาดว่าใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท และโครงการนี้น่าจะแล้วเสร็จทันภายในฤดูกาลผลิตข้าวนาปีที่จะถึงนี้ รวมทั้งจะพัฒนาที่ดินในคลังสินค้าสินค้าที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ 18.25 ไร่ ให้เป็นคลังสินค้าที่รองรับการค้าการลงทุนในกลุ่มเออีซี อาทิ สปป.ลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันเป็นพื้นที่เก็บข้าวสารของรัฐบาล