xs
xsm
sm
md
lg

โกลว์พลังงานทุ่ม3-5พันล.ใน5ปี ผุดSPPใหม่ทดแทนที่หมดสัญญา 4โรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โกลว์พลังงานทุ่ม3-5 พันล้านบาทในช่วงปี 2561-2564 เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าSPPใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่หมดสัญญาซื้อขายไฟลง 4 สัญญา เผยสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลทางใต้และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกหากรัฐเปิดรับซื้อ และเห็นโอกาสซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในไทย ส่วนต่างประเทศก็มองโอกาสการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน

นายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน บริษัท โกลว์พลังงาน จำกัด (มหาชน)หรือ GLOW เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2561-2564 บริษัทฯมีแผนจะใช้เงินลงทุน 3-5 พันล้านบาทเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP)ทดแทนโรงไฟฟ้าSPP ที่จะสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)จำนวน 4 สัญญา โดยจะพิจารณาการออกแบบและใช้เครื่องจักรให้เหมาะสม เนื่องจากกฟผ.จะรับซื้อไฟลดลงเหลือ 30เมกะวัตต์/โรง ขณะที่สัญญาซื้อขายไฟสำหรับลูกค้าอุตสาหกรรมก็แตกต่างกันไป ทำให้ขนาดกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าใหม่นี้อาจจะต่างจากเดิมคาดว่าจะสรุปแผนลงทุนทั้งหมดในปลายปีนี้

อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนสำหรับสร้างโรงไฟฟ้าSPP ใหม่เพื่อทดแทนโรงเดิมนั้นจะไม่สูงมากเมื่อเทียบการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด เพราะบริษัทฯจะใช้อุปกรณ์โรงไฟฟ้าเดิมบ้าง แต่จะเปลี่ยนเฉพาะอุปกรณ์หลักทั้งเครื่องกังหันแก๊ส และหม้อไอน้ำ โดยไม่ต้องลงทุนเครื่องกังหันไอน้ำ น้ำ (Stream Turbine) ทำให้ต้นทุนลดลง ทั้งนี้ ลูกค้าอุตสาหกรรมหลักของบริษัทฯ คือ กลุ่มปิโตรเคมีที่มาบตาพุด คิดเป็นสัดส่วน 90% ที่เหลือเป็นกลุ่มยานยนต์

นายปจงวิข กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯยังมองโอกาสการรุกธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อสอดคล้องกับนโยบายบริษัทแม่ที่ประกาศไม่ลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่อีกต่อไป แต่จะมุ่งเน้นการพัฒนาโรงไฟฟ้าที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำทั้งพลังงานแสงอาทิตย์, ชีวมวล พลังน้ำ เป็นต้น โดยบริษัทฯมองเห็นโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนรวมทั้งโรงไฟฟ้าSPPในไทย

นอกจากนี้ บริษัทฯสนใจที่จะลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี โดยเตรียมเสนอขายไฟฟ้าทันทีที่รัฐเปิดรับซื้อ และโครงการผลิตไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ภาคใต้ด้วย ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรที่รัฐบาลเตรียมที่จะเปิดรับซื้อระยะที่ 2 ภายในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ก็ได้มีการเจรจาไว้แล้วหลายแห่ง

ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารหรือโรงงาน (โซลาร์รูฟท็อป) บริษัทฯได้มีการเจรจากับโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาเพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ในในโรงงาน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟให้กับโรงงานอุตสาหกรรม

บริษัทฯเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านทั้งเมียนมา ,ลาว ,กัมพูชา ,เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าครอบคลุมถึง 100 กิกะวัตต์ มีโอกาสของการเติบโตอีกมาก จากปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานห้วยเหาะที่สปป.ลาวแล้ว 1 โรง


ปัจจุบัน บริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 3,206.66 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 1,206 ตัน/ชั่วโมง โดยมีรายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่( IPP) 40% และSPP รูปแบบโคเจนเนอเรชั่น 60% โดยบริษัทฯมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าSPP กับกฟผ.ทั้งสิ้น 11 สัญญา โดยมี 7 สัญญาที่จะหมดอายุในช่วง 2560-2568 คิดเป็นปริมาณการขายไฟฟ้ารวม 500เมกะวัตต์ โดย 2สัญญาซื้อขายไฟชุดแรกที่สิ้นสุดปี 2560-2561 บริษัทจะต่อสัญญาขายไฟกับกฟผ.ไปก่อน 3ปี ในปริมาณการขายไฟที่ลดลงจากเดิม 90 เมกะวัตต์/โรงเหลือไม่เกิน 60เมกะวัตต์/โรง หลังจากนั้นจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทน ส่วนที่เหลือ 5สัญญาก็จะทยอยสร้างโรงไฟฟ้าใหม่เพื่อแทนโรงเดิมที่สิ้นสุดสัญญาลง
กำลังโหลดความคิดเห็น