“ร.ฟ.ท.-คปภ.” เซ็นเอ็มโอยูการส่งเสริมความรู้และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย พร้อมเสนอแผนจัดตั้งกองทุนประกันภัยรถโดยสารสาธารณะ ทั้งรถไฟ รถทัวร์ และรถเมล์ เพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการ หวังลดการจ่ายเบี้ยประกันสูญเปล่า เผย ร.ฟ.ท.ทำประกันวงเงินเบี้ย 48.9 ล้าน เตรียมขยายการทำประกันภัยเพิ่มเติม คุ้มครองตู้รถโดยสาร หัวจักร และสินค้า ระบุต่อปีการขนส่งมีมูลค่า 2-3 พันล้าน
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2559 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความรู้และสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย
โดยนายวุฒิชาติ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้นอกจากจะเป็นการขยายความร่วมมือด้านการประกันภัยของทั้งสองฝ่ายแล้ว ร.ฟ.ท.ยังได้หารือกับ คปภ.ถึงการเสนอแนวคิดการจัดตั้งกองทุนประกันภัยรถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ทั้งรถไฟ รถทัวร์ และรถเมล์ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนเกิดความสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าในแต่ละปีผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะมีภาระค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันภัยในการทำประกันอุบัติเหตุ และประกันภัยในวงเงินที่สูง ซึ่งเมื่อไม่มีอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้เบี้ยประกันที่จ่ายไปสูญเปล่า
จึงเสนอให้ คปภ.คิดรูปแบบ และจัดตั้งกองทุนขึ้นเพื่อให้เอาเบี้ยประกันที่ผู้ประกอบการรถสาธารณะจ่าย เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นเงินสมทบกองทุน เพื่อเป็นเงินสะสมในแต่ละปีเพิ่มขึ้น และเมื่อหากเกิดอุบัติเหตุสามารถนำเงินกองทุนมาใช้ชดเชยค่าเสียหาย ก็จะเกิดผลดีแก่ทุกฝ่าย
“หลังจากนี้ คปภ.จะนำแนวคิดการจัดตั้งกองทุนไปหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนรัฐวิสาหกิจ รวมถึงสมาคมประกันวินาศภัย เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมหรือความเป็นไปได้ในการจัดตั้งขึ้นมา ซึ่งทาง คปภ.ยินดีเพราะมีนโยบายในการส่งเสริมการนำระบบประกันภัยทุกรูปแบบไปช่วยบริหารความเสี่ยงให้แก่ประชาชน รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจได้รับความคุ้มครองจากอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด”
สำหรับการลงนามความร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ กับ คปภ. ได้ตกลงให้มีการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องประกันภัยให้ประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ ร.ฟ.ท. ขณะเดียวกัน คปภ.เองจะให้คำปรึกษา และแนะนำข้อมูลข้อกฎหมายที่เป็นประโยชน์ด้านการประกันภัยแก่เจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการด้วย นอกจากนี้ จะร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้เห็นความสำคัญ และสามารถใช้ประกันภัยอย่างถูกต้อง เหมาะสม และป้องกันความเสี่ยงจากการใช้บริการระบบขนส่งต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ได้ร่วมมือกับ คปภ. และบริษัทประกันภัยให้ความรู้แก่ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนในการสัญจรไปมาข้ามจุดตัดทางรถไฟให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น การหยุดรถก่อนถึงจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์อย่างน้อย 5 เมตร เป็นต้น
นอกจากนี้ การรถไฟฯ มีแผนขยายความร่วมมือด้านการประกันภัยเพิ่มขึ้นในอนาคต ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุผู้โดยสารรถไฟไปแล้ว งเงินเบี้ยประกัน 48.9 ล้านบาท และหลังจากนี้กำลังศึกษาการเข้าไปทำรูปแบบการประกันภัยใหม่เพิ่มอีก เช่น การประกันภัยตู้โดยสารรถไฟ หัวรถจักร รวมถึงการขนส่งสินค้า ซึ่งแต่ละปีมีมูลค่าการขนส่งสินค้าสูงถึง 2,000-3,000 ล้านบาท