“พาณิชย์” นัดถกเอกชนรายกลุ่มดันส่งออก เริ่ม มิ.ย.นี้ พร้อมปรับแผนเร่งอัดกิจกรรมเสริมปั๊มยอดเต็มที่

“มาลี” เตรียมนัดถกภาคเอกชนเป็นรายกลุ่ม ประเมินแนวโน้มส่งออก เริ่มตั้งแต่ มิ.ย.นี้เป็นต้นไป พร้อมปรับแผนเชิงรุกนำนักธุรกิจจัดบิสิเนส แมตชิ่ง ช่วงผู้นำรัฐบาลเดินทางเยือนประเทศต่างๆ หวังเพิ่มยอดส่งออกในทันที ส่วนตลาดหลัก ตลาดใหม่ ยังคงจัดกิจกรรมเพิ่มยอดเต็มที่ คาดส่งออกเริ่มฟื้นหลังเศรษฐกิจโลก คู่ค้าฟื้นตัว ยันไทยจะพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ให้ได้

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2559 เป็นต้นไปกรมฯ จะเริ่มนัดประชุมผู้ส่งออกสินค้าเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น เกษตรและอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน ยานยนต์และชิ้นส่วน สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง กลุ่มสินค้าสุขภาพ กลุ่มไลฟ์สไตล์ เป็นต้น เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกในปัจจุบันและแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าเป็นอย่างไร และจำเป็นต้องปรับแผนสนับสนุนการส่งออกเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อผลักดันให้การส่งออกในปีนี้ขยายตัวได้มากที่สุด เพราะแผนผลักดันการส่งออกกรมฯ มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดอยู่แล้ว

สำหรับแผนผลักดันการส่งออกที่กรมฯ ได้ปรับเพิ่มในขณะนี้ เช่น การเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ ของผู้นำรัฐบาล ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าต่างๆ เดินทางร่วมไปด้วย เพื่อพบปะเจรจาธุรกิจ (บิสิเนส แมตชิ่ง) กับนักธุรกิจของประเทศที่ได้เดินทางไป หรือในเวทีการประชุมกับต่างประเทศ การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) กับประเทศต่างๆ กรมฯ ก็จัดให้มีบิสิเนส แมตชิ่งด้วย ซึ่งทำให้ขยายการส่งออกได้รวดเร็วเพราะเกิดการสั่งซื้อหรือทำธุรกิจในทันที

ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ยังเดินหน้าจัดต่อเนื่องทั้งในตลาดหลัก และตลาดใหม่ โดยในส่วนของตลาดหลัก เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น ก็มีกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อรักษาส่วนแบ่งในตลาดเอาไว้ให้ได้ และตลาดใหม่ก็จะเพิ่มกิจกรรมให้มากขึ้น เช่น ตลาด CLMV และอาเซียน จีน อินเดีย ที่จะมีกิจกรรมมากกว่าปกติ เพื่อขยายโอกาสการส่งออกให้กับสินค้าไทยเพราะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี

นางมาลีกล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกจากนี้ไปคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะเห็นชัดเจนตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2559 เป็นต้นไป เพราะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าเริ่มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น เช่น สหรัฐฯ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ยุโรปเริ่มทรงตัว ญี่ปุ่นก็ดีขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้เริ่มปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ลดลงไปมากก่อนหน้านี้ ทำให้ประเทศที่ส่งออกน้ำมันมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นซึ่งล้วนแต่เป็นผลดีต่อการส่งออกของไทย

ทางด้านการส่งออกทั้งปีจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5% หรือไม่ กรมฯ ยังคงยึดเป้าหมายดังกล่าวไว้เป็นเป้าในการทำงานเพื่อให้มีแรงขับเคลื่อน แม้ว่าหลายๆ ฝ่ายจะประเมินว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ก็ตาม แต่ไม่ว่าการส่งออกจะเป็นอย่างไร กรมฯ จะเดินหน้าเพื่อรักษาส่วนแบ่งการส่งออกของไทยในตลาดต่างๆ ให้คงอยู่และเพิ่มขึ้น เพราะในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ทุกๆ ประเทศต่างก็พยายามเร่งส่งออก ทำให้เค้กก้อนเล็กลง แต่ถ้าไทยยังแบ่งชิ้นเค้กได้เท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นก็ต้องถือว่าเก่งแล้ว

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ปรับแผนในการผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ โดยขณะนี้ได้เน้นตลาดเป้าหมาย คือ CLMV และอาเซียน โดยการใช้ประโยชน์จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และยังได้เร่งผลักดันการสร้างรายได้จากภาคธุรกิจบริการ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ก.ย. 2559 กรมฯ จะเรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) เพื่อประเมินการส่งออกอีกครั้งว่าแนวโน้มของประเทศคู่ค้าที่ทูตพาณิชย์ประจำอยู่เป็นอย่างไร ก่อนที่จะเร่งผลักดันการส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปี และยังจะมีการประเมินแนวโน้มการส่งออกของปี 2560 และการจัดทำแผนกิจกรรมเพื่อผลักดันการส่งออกด้วย