xs
xsm
sm
md
lg

“มาลี” เดินหน้าช่วย SMEs โกอินเตอร์ โพกัสตลาดอาเซียน CLMV สินค้าบริการ และสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“มาลี” เดินหน้าช่วยผู้ประกอบการบุกตลาดต่างประเทศ หลังได้งบ SMEs Proactive 400 ล้าน เปิดให้ยื่นขอรับการสนับสนุนแล้ว เผยหากเป็นโครงการเจาะตลาดอาเซียน CLMV สินค้าบริการ และสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ระบุ โครงการระยะแรกสำเร็จเกินคาด ช่วย SMEs 2.6 พันราย ขายสินค้าได้เกือบ 9 พันล้านบาท

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้รับงบประมาณ จำนวน 400 ล้านบาท ในการจัดทำโครงการส่งเสริม และเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs Proactive) ระยะที่ 2 ซึ่งจะดำเนินการ 3 ปี นับจากปี 2559-61 โดยจะมุ่งเน้นการสนับสนุน SMEs ในการขยายตลาดส่งออกสินค้าในต่างประเทศ ครอบคลุมทั้งตลาดเดิม และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ

โดยการขอรับการสนับสนุน ผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการบุกเจาะตลาดต่างประเทศ สามารถขอรับการสนับสนุนในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และการจัดคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งสามารถระบุงานแสดงสินค้าที่ต้องการจะเข้าร่วม โดยอาจจะแตกต่างจากงานที่กรมฯ เข้าร่วมก็ได้ และสามารถระบุประเทศที่ต้องการจะออกไปเจรจาการค้าเพื่อเปิดตลาดให้แก่สินค้าที่ตนเองผลิตก็ได้

“การสนับสนุนโครงการนับจากนี้ไปจะเน้นการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นการเจาะตลาดอาเซียน และ CLMV เน้นการส่งเสริมการส่งออกภาคบริการ และเน้นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง มีนวัตกรรม มีการออกแบบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากเป็นโครงการที่เสนอมาตามนี้ก็จะพิจารณาให้เป็นพิเศษ” นางมาลี กล่าว

สำหรับการนำเสนอโครงการ ผู้ประกอบการ SMEs ให้ทำโครงการเสนอผ่านหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานเหล่านี้กลั่นกรองก่อนที่จะเสนอให้กรมฯ พิจารณา

ส่วนผลการดำเนินโครงการ SMEs Proactive ระยะแรก ปี 2556-58 ได้สนับสนุน SMEs ในการเจาะตลาด จำนวน 2,602 ราย ในการไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ จำนวน 427 กิจกรรม โดยมีมูลค่าการสั่งซื้อรวม 269 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,896 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมั่นใจว่าการทำโครงการในระยะที่ 2 จะสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าขายของ SMEs ได้มากขึ้นกว่าเดิม

นางมาลี กล่าวว่า ในการสนับสนุน SMEs กรมฯ ยังมีแผนที่จะพัฒนาผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าให้มีความรู้ด้านการส่งออก และสามารถส่งออกได้จริง ซึ่งกรมฯ มีศูนย์พัฒนาธุรกิจสู่สากลที่พร้อมจะเป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำการผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด แนะนำช่องทางในการส่งออก และตลาดเป้าหมายในการส่งออก โดยมั่นใจว่า จะทำให้ SMEs เป็นผู้ส่งออกได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน DITP Connect เพื่อเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศ และกิจกรรมต่างๆ ของกรมฯ เพื่อให้ SMEs ได้เข้ามาใช้บริการ และหากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมก็สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1169 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา

สำหรับสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) กรมฯ ก็จะให้ความสำคัญในการผลักดันให้มีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยจะเข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมต่อความต้องการของตลาด โดยส่งผู้เชี่ยวชาญลงไปช่วยเหลือ และเมื่อสินค้ามีการพัฒนาแล้วก็จะช่วยหาตลาด โดยจัดทำนัดหมายธุรกิจกับผู้ซื้อต่างประเทศ นำสินค้าของผู้ประกอบการไปแสดงในงานแสดงสินค้าสำคัญในไทย และพาผู้ประกอบการไปแสดงสินค้าในต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น