นับตั้งแต่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรืองานบางกอก เจมส์ ครั้งที่ 58 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7-11 ก.ย. 2559 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งให้ทราบว่ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะกลับมาเป็นผู้บริหารและจัดงานดังกล่าวเอง หลังจากที่ได้มอบหมายให้สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับเป็นผู้จัดงานมาตั้งแต่ครั้งที่ 24 เมื่อเดือน ก.ย. 2542 จนถึงครั้งที่ 57 เมื่อเดือน ก.พ. 2559
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ระบุเหตุผลของการกลับมาจัดงานดังกล่าวว่า ต้องการผลักดันให้การจัดงานมีความเป็นสากล ทันสมัย มีดีไซน์ และสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการของตลาดโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยจะเน้นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของการจัดงาน การพัฒนาสินค้าให้มีความแปลกใหม่ รวมถึงมีเป้าหมายในการเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าที่มีคุณภาพจากต่างประเทศให้เข้ามาร่วมงาน
แต่หลังจากที่ได้มีการดำเนินการ ได้ถูกภาคเอกชน ซึ่งเคยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดงานออกมากล่าวหา และโจมตีการทำงานของภาครัฐว่าไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ได้ดำเนินการกำหนดพื้นที่การจัดงาน การขายบูท และเชิญผู้ซื้อต่างประเทศแล้ว ทำให้ได้รับผลกระทบ และเลยเถิดไปจนถึงขั้นจะจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเอง
หลังจากเกิดปัญหาขึ้น นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ออกมาชี้แจงและทำความเข้าใจในทันที เพื่อยุติความสับสน ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมงานทั้งในและต่างประเทศ และในส่วนของผู้ซื้อ ผู้นำเข้า โดยได้ย้ำถึงความพร้อมในการกลับมาจัดงานเอง พร้อมกับยืนยันว่าต้องการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก และยังมีเป้าหมายที่จะทำให้งานบางกอกเจมส์ติด 1 ใน 3 ของงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับชั้นนำของโลกภายในปี 2561
ส่วนการที่เอกชนจะออกมาจัดงานเองก็ไม่ขัดข้อง แต่ควรจะใช้ชื่ออื่นในการจัดงาน เพื่อป้องกันความสับสน จะใช้ชื่องานบางกอกเจมส์ไม่ได้ เพราะทั้งชื่องานและโลโก้ในการจัดงานเป็นสิทธิ์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมงานไปแล้ว มีผู้ประกอบธุรกิจสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับตอบรับเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าจะเป็นไปตามเป้า 700 บริษัท หรือกว่า 2,000 คูหา และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น ฮ่องกง อินเดีย จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน และรัสเซีย เป็นต้น ทั้งผู้ค้าและผู้นำเข้าคุณภาพสูง ผู้ซื้อจากแบรนด์ชั้นนำ และนักออกแบบชั้นแนวหน้าเข้ามาร่วมงานถึง 30,000 ราย
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดของการเตรียมความพร้อมในการจัดงาน นางมาลีบอกว่า ในส่วนของการเตรียมการจัดงานบนพื้นที่กว่า 58,000 ตารางเมตร ได้มีการแบ่งกลุ่มสินค้าในการจัดงานออกเป็น 8 กลุ่มสินค้าหลัก แต่ในปีนี้จะมีการจัดนิทรรศการและแสดงสินค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Niche Market) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ยังไม่มีที่ใดเสนอเป็นรูปธรรม แต่กรมฯ จะนำมาแสดงโชว์ด้วย เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีศักยภาพการเติบโตสูงในอนาคต ได้แก่ สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสำหรับผู้สูงอายุ สำหรับผู้ชาย สำหรับกลุ่มผู้รักสัตว์เลี้ยง และสำหรับโอกาสพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน หรืองานเทศกาลต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีนิทรรศการ Gems Vision 2017 Showcase by Swarovski Gemstones ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ซิกนิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบให้แก่นักออกแบบในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับและอุตสาหกรรมอื่นๆ มาแล้วทั่วโลก การจัดแสดงสินค้า Thai Jewelry Brands เพื่อจัดแสดงผลงานแบรนด์สินค้าเครื่องประดับไทยที่ได้รับการพัฒนามาแล้ว และการจัด Display สินค้า และการสร้างแบรนด์ โดยผู้เชี่ยวชาญจากนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ
“ที่สำคัญ ในส่วนของรูปแบบคูหาและผังการจัดงาน จะออกแบบคูหาใหม่ และปรับการจัดหมวดหมู่ตามความต้องการของผู้ซื้อในการเยี่ยมชม และสร้างจุดพักชมสินค้าไฮไลต์ให้เป็นแลนด์มาร์กที่แปลกตา เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการ” นางมาลีกล่าว
นางมาลีกล่าวว่า สำหรับความกังวลในเรื่องของสถานที่จัดงาน กรมฯ ได้รับหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการจากศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คแล้วว่าพื้นที่จัดงานบางกอกเจมส์ครั้งที่ 58 เป็นของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสามารถจัดงานได้เพียงรายเดียวเท่านั้น และทางอิมแพ็คยังแจ้งอีกว่าเป็นนโยบายที่จะให้บริการแก่ลูกค้าในการจัดงานที่ไม่ซ้ำซ้อนกันมาจัดในช่วงระยะเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เพื่อประโยชน์ของลูกค้าในการจัดงาน
ทางด้านการประชาสัมพันธ์การจัดงานไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ กรมฯ ได้ดำเนินการในทุกช่องทาง ทั้งช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การซื้อฐานข้อมูลผู้ซื้อผู้นำเข้าจากฐานข้อมูลงานแสดงสินค้าที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกจาก 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกาเหนือ และยุโรป เพื่อขยายช่องทางในการสร้างการรับรู้และเชิญชวนให้มาเข้าร่วมงาน
ทางด้านการอำนวยความสะดวกของผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าภายในงาน จะมีการจัดเตรียมรถรับ-ส่ง การให้ข้อมูลโรงแรมที่พักที่ใกล้เคียงสถานที่จัดงาน ขณะที่ในด้านความปลอดภัย มีการเตรียมความพร้อมด้านกำลังเจ้าหน้าที่ และกล้อง CCTV เพื่อดูแลความปลอดภัยในบริเวณงานอย่างเข้มงวดมากกว่าครั้งที่ผ่านมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้จัดนิทรรศการและผู้เข้าชมงาน
นางมาลีกล่าวว่า ล่าสุดกรมฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มีอยู่ 61 แห่งทั่วโลก ทำการประชาสัมพันธ์การจัดงาน และเชิญชวนผู้ซื้อ ผู้นำเข้า กลุ่มเป้าหมาย และนำเข้ามาชมงาน โดยได้รับการแจ้งจากทูตพาณิชย์ประเทศต่างๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องว่า ได้มีการตอบรับที่จะเชิญชวนให้ผู้ประกอบการมาร่วมออกบูทในงานบางกอกเจมส์ และจะนำคณะผู้ซื้อเดินทางมาชมงานในไทย
โดยทูตพาณิชย์ที่ได้แจ้งความคืบหน้ามาแล้ว เช่น ทูตพาณิชย์ที่มะนิลา ได้เข้าพบ Ms. Mia M. Florencio ประธานสมาคมผู้ค้าอัญมณี (Guild of Jewellers) ของฟิลิปปินส์ เพื่อแจ้งยืนยันการจัดงานบางกอกเจมส์ครั้งที่ 58 ว่ากรมฯ เป็นผู้จัด พร้อมขอความร่วมมือในการเชิญชวนสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมแสดงสินค้าและเยี่ยมชมงาน ซึ่งประธานสมาคมฯ มีความสนใจสอบถามรายละเอียดต่างๆ และรับปากที่จะแจ้งสมาชิกให้ทราบต่อไป
ด้านทูตพาณิชย์ที่นครนิวยอร์ก ได้เสนอแผนการตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดของไทย และได้หารือกับ Mr. Michael C. Barlerin ผู้อำนวยการสถาบันเครื่องเงิน (Silver Institute) อดีต Chief Executive ของ World Gold Council ของสหรัฐฯ และเป็น Senior Vice President Marketing ของเครื่องประดับแบรนด์ Zales อีกทั้งเป็นสมาชิกของ Twenty Club of New York และ Board of Directors ของ Jewelers Vigilance Committee เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานบางกอกเจมส์ และเชิญชวนผู้ซื้อผู้นำเข้าตัวจริงเข้าชมงาน และยังมีแผนจะเข้าเยี่ยมงาน JCK Las Vegas และเข้าหารือกับผู้บริหารการจัดงานในเดือน มิ.ย.นี้ด้วย
นอกจากนี้ ทูตพาณิชย์ที่กรุงโตเกียวได้เข้าหารือกับประธานสมาคม Japan Jewellery Association ซึ่งเป็นสมาคมอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทูตพาณิชย์ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้เข้าพบสมาพันธ์ผู้ค้าทองคำและผลิตอัญมณีและเครื่องประดับแห่งมาเลเซีย ทูตพาณิชย์ที่นครโทรอนโต ได้เข้าพบสมาพันธ์ผู้ค้าเครื่องประดับแคนาดา รวมถึงทูตพาณิชย์ในประเทศต่างๆ ได้เข้าพบและหารือกับสมาคมด้านอัญมณีและเครื่องประดับในต่างประเทศ เช่น สมาคมอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศอินเดีย ที่เมืองชัยปุระ สมาคมอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศจีน (กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครคุนหมิง และเมืองกว่างโจว) รวมถึงสมาคมในประเทศบราซิล เยอรมนี และออสเตรีย เป็นต้น
ขณะเดียวกัน เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการหารือกับ Mr. Maurizio Di Trani Marketing & Sales Director ของ Fiera di Vicenza ผู้จัดงานอัญมณีและเครื่องประดับ Vicenzaoro ของอิตาลี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการจัดงานของไทย และยังได้หารือถึงแนวทางความร่วมมือในการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของทั้ง 2 ประเทศ โดยทาง Fiera di Vicenza ได้ตกลงที่จะร่วมมือกับไทยในการประชาสัมพันธ์การจัดงาน และเชิญชวนให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เดินทางมาเยี่ยมชมงานบางกอกเจมส์ในไทย ซึ่งได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่เมืองมิลานประสานงานและให้ความร่วมมือกับ Fiera di Vicenza อย่างใกล้ชิดแล้ว
นางมาลีสรุปว่า การกลับมาจัดงานบางกอกเจมส์เอง กรมฯ ไม่ได้ต้องการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย แต่ต้องการมีการยกระดับภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรม และทำให้อุตสาหกรรมมีการขยายตัว โดยกรมฯ จะใช้เวทีการจัดงานเพื่อแสดงความพร้อมของไทยในฐานะการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก และผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้ของไทยแข่งขันได้ ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมทั้งหมดได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ส่วนเป้าหมายของการผลักดันให้งานบางกอกเจมส์เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ดีที่สุดติด 1 ใน 3 ของโลกภายใน 3 ปีนั้น นางมาลียืนยันว่า “ทำได้ เพราะทุกวันนี้คนในวงการอัญมณีและเครื่องประดับต่างรู้จัก และให้ความสำคัญต่อการเข้าร่วมงานอยู่แล้ว ฉะนั้น เป้าหมายคงไม่ไกลเกินจริง โดยกรมฯ เริ่มพลิกโฉมรูปแบบการจัดงานตั้งแต่ปีนี้ และปีต่อๆ ไปจะเข้มข้นมากขึ้น คอยติดตามดูได้เลย”
